ดาวโจนส์ได้พลิกกลับมาบวกในวันอังคาร และคืนวันพุธเล็กน้อย ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่ง ช่วยให้ตลาดในวงกว้างปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากแรงหนุนเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในวันก่อนหน้า
ทางด้านแนวโน้มตลาดในช่วงนี้ นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น หลังจากที่ปีนี้ได้เกิดความผันผวนในตลาด โดยดัชนี S&P ได้ปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551
สำหรับตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
เมื่อวันอังคาร ตัวเลข Building Permits (Nov) หรือตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างประจำเดือนพฤศจิกายน ได้ลดลงจากก่อนหน้าที่ 1.512M มาอยู่ที่ 1.342M เป็นผลมาจากความกังวลในอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับสูงขึ้น โดยตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และได้เพิ่มความกังวลต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นโดยรวม
ส่วนตัวเลข CB Consumer Confidence (Dec) หรือความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ประกาศเมื่อคืนวันพุธ อยู่ที่ 108.3 มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 101.0 และตัวเลขก่อนหน้าที่ 100.2 ซึ่งเป็นไปตามคาดและค่อนข้างเป็น Seasonal trend สำหรับช่วงเทศกาลส่งท้ายปี แต่ก็อาจจะเป็นปัจจัยชั่วคราวที่ทำให้ตลาดหุ้นโดยรวมไม่ว่าจะเป็น Dow Jones S&P500 หรือ Nasdaq ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็นของขวัญส่งท้ายปี
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจของสหรัฐฯเพิ่มเติมที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ที่อาจส่งผลต่อตลาดหุ้นโดยรวม ประกอบด้วย
คืนวันพฤหัสบดี (เวลา 20:30 ไทย)
- GDP (QoQ) (Q3) ตัวเลขคาดการณ์ 2.9% ตัวเลขก่อนหน้า 2.9%
- Initial Jobless Claims ตัวเลขคาดการณ์ 222K ตัวเลขก่อนหน้า 211K
คืนวันศุกร์ (เวลา 22:00 ไทย) New Home Sales (MoM) (Nov) ตัวเลขคาดการณ์ -4.7% ตัวเลขก่อนหน้า 7.5%
โดยดัชนี New Home Sales คาดว่าจะเป็นไปตามคาด และล้อไปกับตัวเลข Building Permits (Nov) ที่ลดลง
และหากอ้างอิงจากตัวเลข CPI ที่ลดลงและเพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้ GDP Q3 จะมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นเล็กน้อย แต่คาดการณ์ว่าตัวเลขใน Q4 ที่จะประกาศต้นปีหน้าอาจจะมีการปรับลดลง ซึ่งจะเป็นการเริ่มสะท้อนให้เห็นถึงการเริ่มต้นการหดตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ตัวเลขสำคัญที่สามารถสะท้อนสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ได้ก็คือ ตัวเลขจำนวนการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานหรือ Initial Jobless Claims ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และน่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีถัดไป
อย่างไรก็ดี สภาพตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยรวมปลายปีนี้ เราน่าจะได้เห็นสัญญาณของสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว โดยในปีหน้า หากปัจจัยสำคัญๆอย่างสถานการณ์โควิดในจีน สงครามรัสเซีย-ยูเครน และซัพพลายของน้ำมันยังไม่ดีขึ้น เราอาจจะได้เห็นสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ก็เป็นไปได้
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog