วิเคราะห์ทิศทาง Gold (XAU/USD) tf. H4 ประจำวันที่ 23/12/22

เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปิดร่วงลงมา 22.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาด ทั้งตัวเลขประมาณการ GDP ครี่งที่ 3 ประจำ Q3/22 และจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ่้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จึงกลับมาเป็นปัจจัยกดดันทองคำ ให้ดิ่งลงทำระดับต่ำสุดของเมื่อวานนี้ที่ 1,784.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

โดยตลาดมีความหวังว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดสามารถชะลอความแข็งกร้าวในการขึ้นดอกเบี้ยได้ ดังนั้นแล้วทองคำจึงค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาในกรอบ เพื่อรอความชัดเจน 

จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ หรือ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) ที่ประกาศในคืนนี้ 20.30 น. ตามเวลาไทย โดยตัวเลขจริงออกมาตามคาดการณ์ ก็คงต้องรอดูว่าเฟดอาจมีแนวโน้มต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อเพื่อกดเงินเฟ้อลงหรือไม่ โดยตัวเลขข้างต้นได้กดด้านราคาร่วงกว่า 600 จุด จาก 1800 สู่ 1794 นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกหลายรายการ ทั้งยอดคำสั่งซื้อหลักสินค้าคงทนของสหรัฐอเมริกา, ตัวเลขรายได้ส่วนบุคคล ที่ออกมาสูงเกินกว่าคาด แต่ในด้านดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล และยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี ในช่วง 22.00 น. ตามเวลาไทย จะมีตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก UoM

การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

ในด้านปัจจัยทางเทคนิค ภาพรวมยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น หากนับจากวันที่ 23 พ.ย. 2022 ซึ่งมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก Low 1727 สู่ High ที่ 1823 ในวันที่ 13 ธ.ค. 2022 โดย ณ เวลาที่เขียน กราฟได้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1799 โดยได้รับสัญญาณ Bullish Market จากการที่กราฟวิ่งเหนือกว่า EMA100 และ EMA200 รวมทั้งยังไม่สามารถ Break out ลงต่ำกว่าเส้น Trendline สีเขียวในแนวโน้มขาขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมระยะสั้นฝั่ง Sell อาจมีความได้เปรียบ หลังจากได้ร่วงลงหนักในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1808 ไปได้ อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนต้องการเปิดสัญญาซื้อ-ขาย ลองพิจารณาตามเงื่อนไข Signal ด้านล่างได้เลยครับ 

Resistance: 1808 / 1824 / 1847
Support: 1784 / 1773 / 1745

Signal

1. Sell limit ที่ระดับ 1805-1810: หากกราฟขึ้นไป Test เส้น Trendline สีแดงในแนวโน้มขาลง โดยให้ตั้ง SL ที่ระดับเหนือ 1811-1819 และตั้ง TP ที่ระดับ 1784 / 1773 ตามลำดับ

2. Sell limit ที่ระดับ 1820-1824: หากกราฟขึ้นไป Re-test แนวต้านสำคัญที่ 1824 โดยให้ตั้ง SL ที่ระดับเหนือ 1829 และตั้ง TP ที่ระดับ 1784 / 1773 ตามลำดับ

3. Buy limit ที่ระดับ 1784-1780: หากกราฟลงมา Test ที่เส้น Trendline ในแนวโน้มขาขึ้น (เส้นเขียว) โดยให้ตั้ง SL ที่ระดับ 1786 และตั้ง TP ที่ระดับ 1808 / 1824 / 1847 ตามลำดับ

4. Buy limit ที่ระดับ 1773-1766: หากกราฟลงมา Test ที่กรอบแนวรับใหญ่ โดยให้ตั้ง SL ที่ระดับ 1762-1753 และตั้ง TP ที่ระดับ 1808 / 1824 / 1847 ตามลำดับ

5. Buy limit ที่ Demand Zone ตรงกับระดับ 1751-1738: โดยให้ตั้ง SL ที่ระดับต่ำกว่า 1737 ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และตั้ง TP ที่ระดับ 1808 / 1824 / 1847 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมบริหารความเสี่ยงกันนะครับ
_______________________________________________________________