วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งท้ายปี 2022
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส แต่การซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปีนี้ โดยจะปิดฉากปี 2565 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าบรรยากาศในตลาดจะยังคงซบเซาเข้าสู่ช่วงปีใหม่
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวได้ย่ำแย่ในปีนี้ โดยคาดว่าจะทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 3 ปีติดต่อกัน โดยขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 4% นับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทรุดตัวลงมากกว่า 6% และ 8% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเฝ้ารอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างยอด Pending Home Sales ในวันพุธนี้ รวมถึง Chicago PMI ในช่วงวันศุกร์ซึ่งมีผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค S&P500 tf. Day
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวได้ย่ำแย่ในปีนี้ โดยคาดว่าจะทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 3 ปีติดต่อกัน โดยขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 4% นับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทรุดตัวลงมากกว่า 6% และ 8% ตามลำดับ
วิเคราะห์ภาพรวมตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย Volume ที่ค่อนข้างเบาบางก่อนวันหยุดยาว โดยได้รับปัจจัยเชิงบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งตัวเลขออกมาที่ 59.7 จุด ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 59.1 จุด รวมถึงดัชนี PCE ที่ลดลงจาก 6.1% เหลือ 5.5% แสดงถึงทิศทางเงินเฟ้อที่ลดลง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย Volume ที่ค่อนข้างเบาบางก่อนวันหยุดยาว โดยได้รับปัจจัยเชิงบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งตัวเลขออกมาที่ 59.7 จุด ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 59.1 จุด รวมถึงดัชนี PCE ที่ลดลงจาก 6.1% เหลือ 5.5% แสดงถึงทิศทางเงินเฟ้อที่ลดลง
อีกยังมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม Energy ตามราคาพลังงานที่เริ่มมีการฟื้นตัว รวมถึงหุ้นกลุ่ม Technology แต่หุ้นTesla (TSLA) กลับปรับตัวลดลง 1.76% สวนทางตลาด
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมของตลาด และจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อจับตาดูผลกระทบของการคุมเข้มนโยบายการเงินที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่า แนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมของตลาด และจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อจับตาดูผลกระทบของการคุมเข้มนโยบายการเงินที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่า แนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ทางเทคนิค S&P500 tf. Day
ดัชนีสะสมกำลังใกล้กรอบล่างของ Sideway Up มีแนวรับสำคัญที่ 3,810 ซึ่งเป็นกรอบล่างและจุดเปลี่ยนแนวโน้ม ที่หากยืนได้ ยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อถึงระดับ 3,960 แต่หากหลุดระดับ 3,810 แนวโน้มเปลี่ยนเป็นลบ
Resistance: 3,960 / 4,000
Support: 3,810 / 3,800
Support: 3,810 / 3,800
การวิเคราะห์ทางเทคนิค DowJones tf. Day
ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Up โดยเป็นการสะสมกำลังใกล้กรอบล่าง แนวโน้มยังเป็นเชิงบวก ระยะถัดไปหากยังไม่หลุดกรอบล่างที่ 32,690 จะมีโอกาสฟื้นตัวต่อ มีแนวต้านถัดไปที่ 33,770 และ 34,000 ตามลำดับ
Resistance: 33,770 / 34,000
Support: 32,690 / 32,000
Support: 32,690 / 32,000
________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
