จีนเปิดประเทศ ปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์วันนี้ จากข่าวการผ่อนคลายนโยบายควบคุมโควิด-19 ล่าสุดของจีน ซึ่งได้กระตุ้นการคาดการณ์ความต้องการของเชื้อเพลิง 

ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐได้มีการปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย Brent เพิ่มขึ้น 3.6% ในขณะที่ WTI เพิ่มขึ้น 2.7% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวสูงที่สุดแบบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนตุลาคม เนื่องจากรัสเซียอาจลดการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยราคาน้ำมันดิบของรัสเซียที่ถูกลิมิตหรือจำกัดโดยกลุ่มประเทศ G7 และสหภาพยุโรป

โดยกลุ่มประเทศ G7 และสหภาพยุโรปได้มีการตกลงกันเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อกำหนดราคาน้ำมันดิบของรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล การตั้งลิมิตราคาน้ำมันมีเป้าหมายเพื่อปิดช่องทางการหารายได้จากการขายน้ำมันของรัสเซีย เพื่อขัดขวางการจัดหาทุนในการทำสงครามกับยูเครน และควบคุมราคาน้ำมันตลาดโลก แต่ก็ยังมีบางฝ่ายแย้งว่าการตั้งลิมิตราคาน้ำมันไม่ได้ทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียลดลงแต่อย่างใด เพราะยังมีบางประเทศอย่าง จีน อินเดีย และตุรกีที่อุดหนุนน้ำมันจากรัสเซียอยู่ 

นอกจากรัสเซียอาจลดการผลิตน้ำมันลง 500,000-700,000 บาร์เรลต่อวันในต้นปี 2566 นี้แล้ว ความกังวลต่อพายุฤดูหนาวทั่วสหรัฐฯ ก็ยังเป็นปัจจัยหนุนที่ส่งผลกระทบราคาน้ำมันและพลังงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หลายฝ่ายก็คาดการณ์ว่าสภาพอากาศของสหรัฐน่าจะดีขึ้นในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม วันนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้นล่าสุด 1% มาอยู่ที่ 85.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐฯอยู่ที่ 80.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นพอๆกันที่ประมาณ 1% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา จากข่าวที่จีนจะยุติข้อกำหนดการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. โดยยกเลิกกฎที่ใช้มาตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ส่งผลต่อความคาดหวังในความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยจากตัวเลขที่ S&P ประเมินไว้ล่าสุด ความต้องการน้ำมันจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกอาจสูงถึง 15.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าในปี 2565 ประมาณ 700,000 บาร์เรล 

ทิศทางราคาน้ำมันในระยะสั้นช่วงนี้จนถึงต้นปีหน้า

ด้วยปัจจัยทั้งจากสภาพอากาศในสหรัฐฯในช่วงนี้ รวมถึงรัสเซียตั้งเป้าลดการผลิตน้ำมัน และนโยบายผ่อนคลายมาตรการโควิดจากจีนก็ได้ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดการขาดแคลนอุปทานในต้นปีหน้าจึงได้หนุนให้ราคาน้ำมันดีดขึ้นอีกเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน แม้ว่าจะไม่สูงมากเนื่องจาก Volume ในการเทรดที่น้อยในช่วงเทศกาล โดยช่วงต้นปีหน้าเราอาจจะได้เห็นความผันผวนและการปรับเพิ่มของราคามากกว่านี้หลังจากที่นโยบายจากจีนและรัสเซียมีผล

Sources: Investing, Reuters