ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566

ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยหรือ GDP ในปี 2566 จะอยู่ในช่วง 3.7%-3.8% มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3.2% และคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และการขยายตัวของภาคเกษตร

ภาคการท่องเที่ยวในปีหน้า ททท. ประมาณการว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาราวๆ 11-30 ล้านคน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวจีน และความตึงเครียดจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน อย่างไรก็ตาม แบงค์ชาติวิเคราะห์ว่าการท่องเที่ยวไทยยังคงได้รับแรงกดดันและพบอุปสรรคจากหลายๆปัจจัยอยู่ เช่น การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น การเพิ่มขึ้นต้นทุนการประกอบธุรกิจอย่างราคาวัตถุดิบอาหาร ค่าสาธารณูปโภค และค่าจ้างแรงงาน รวมถึงการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ เป็นต้น

ส่วนทางด้านการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐทั้งหมดคาดว่าจะต่ำกว่าปี 2565 เล็กน้อย เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ภาคเอกชนจึงมีแนวโน้มที่จะระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยตัวเลขจะขยายตัวอยู่ที่ราวๆ 2.6% ซึ่งต่ำว่าปี 2565 ที่ 3.9% (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ย. 65) ทางด้านภาครัฐ คาดลงทุนอยู่ที่ 2.4% เพิ่มขึ้นจาก -0.7% ในปี 2565 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกรอบงบประมาณรายจ่ายลงทุนภายใต้งบประมาณประจำปี 2566 ที่จะเพิ่มขึ้น 13.5% จากปีงบประมาณ 2565

อย่างไรก็ดี ทางด้านการส่งออกในปีหน้า ธปท.พบว่าสินค้าส่งออกกลุ่มสินค้าคงทน เช่นหมวดสินค้ารถยนต์ และชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เริ่มมีการหดตัวให้เห็นบ้างแล้วในปี 2565 ซึ่งเป็นผลจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อสูง แนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ยแบบเข้มงวด และปริมาณการค้าโลกที่ลดลง โดยธปท. และสภาพัฒน์ฯ คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยปี 2566 จะขยายตัว 1% ชะลอลงจากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 3.2%  แต่ทั้งนี้ ก็ยังได้รับแรงบวกจากสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ยังส่งออกได้ดีอยู่บ้าง

ด้านอัตราเงินเฟ้อของไทย ณ เดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 5.55% สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และ 3.22% สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมสินค้าในกลุ่มอาหารสดและพลังงาน โดยในปี 2566 ธปท. ยังคงกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไว้ที่ 1-3% และคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจต่อไป

แนวโน้มและทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2566

จากตัวเลขคาดการณ์ด้านบน เราก็พอจะเห็นนภาพได้ว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้านั้นดูเหมือนจะหวังพึ่งพาแรงผลักดันจากภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในขณะที่ปัจจัยส่งเสริมอื่นๆเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักๆที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทยก็ยังคงหนีไม่พ้นปัจจัยภายนอกรอบด้านที่กำลังส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของโลกอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแต่ละประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนและสหรัฐ-จีน รวมถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดพลังงาน ซึ่งแน่นอนว่าหากเกิดปัญหาจากปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้เพิ่มขึ้น ย่อมมีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างแน่นอน

Sources: BOT's MPM Dec 22, BOT Publication 1, BOT Publication 2, NESDC 1, NESDC 2