เศรษฐกิจยุโรปช่วงนี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุด มาอยู่ที่ 3% นับเป็นอัตราสูงที่สุด และมุ่งมั่นที่จะปรับอัตราเพิ่มอีกครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง German Factory Orders (MoM) เดือนธันวาคม (คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี) ก็ออกมาอยู่ที่ 3.2% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.0% และมากกว่าเดือนพฤศจิกายนที่ -4.4% เป็นการเพิ่มมากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศเยอรมนีและยูโรโซนที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงความต้องการในภาคการผลิตที่กลับมาทรงตัวในช่วงสิ้นปี 2565 และบ่งชี้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะรุนแรงน้อยกว่าที่คาดไว้
อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2565 และลดลงถึง 10.1% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2564 ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเยอรมนีซึ่งถือเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของสหภาพยุโรป อาจเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉุดการเติบโตของยูโรโซนจนถึงปี 2030 เป็นอย่างน้อย เนื่องจากเผชิญกับแรงกดดันในการแก้ไขปัญหาแรงงานที่ลดลงและการลงทุนที่ซบเซา รวมถึงความพยายามในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทั้งนี้ ศักยภาพการเติบโตของเยอรมนีถูกคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.0% ในระยะกลาง เมื่อเทียบกับ 1.5% สำหรับยูโรโซนโดยรวม เนื่องจากต้นทุนสะสมจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามในยูเครน และวิกฤตพลังงานที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อหนี้สาธารณะ โดยภายในสิ้นปี 2567 เศรษฐกิจเยอรมนีคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 1.2% จากสิ้นปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการระบาด เมื่อเทียบกับการเติบโต 5.7% ในเขตยูโร
ทางด้านดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ -8.0 โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2565 ปรับดีขึ้นจากเดือนมกราคมที่ -17.5 และดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ -12.8 แต่ยังคงอยู่ในแดนลบเนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจหดตัวที่จะมาถึง แม้ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะลดลงก็ตาม ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเป็น -6.0 จาก -15.8 ในเดือนมกราคม
อย่างไรก็ดี แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของเขตเศรษฐกิจยุโรปและเยอรมันจะเผชิญปัญหาหลายอย่าง แต่การปรับเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นยุโรปและดัชนี DAX ของเยอรมันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีบางกลุ่มที่มีหุ้นในธุรกิจการเงินธนาคาร และสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงดัชนีส่วนใหญ่โดยทั่วไปไม่ได้รับความเสี่ยงจากหุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีเท่ากับตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่กลับมีความเสี่ยงจากหุ้นในกลุ่มธุรกิจพลังงานเสียมากกว่า
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าอีกสาเหตุหนึ่ง คือความน่าสนใจของหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่ดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น (Value stock) ได้ส่งผลให้ในปีนี้ จากข้อมูลของ EPFR กองทุนตราสารทุนของสหรัฐฯมีเงินไหลออกไปแล้วกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่กองทุนหุ้นของยุโรปก็มีเงินไหลเข้ามากถึง 3 พันล้านดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดหุ้นยุโรปยังมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อยู่อีก ตราบใดที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตัวเลขรวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในยุโรปยังดำเนินไปได้ดี
CFD EU50 (Euro Stoxx 50 Futures - Mar 23)
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ : 4222, 4225, 4228
แนวรับสำคัญ : 4216, 4213, 4210
5H Outlook
1H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4208 – 4216 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4216 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4222 และ SL ที่ประมาณ 4205 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4222 – 4230 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4235 และ SL ที่ประมาณ 4215 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4222 – 4230 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4222 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4213 และ SL ที่ประมาณ 4233 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4208 – 4216 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4204 และ SL ที่ประมาณ 4221 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Feb 07, 2023 01:54PM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 4204 | 4210 | 4213 | 4219 | 4222 | 4228 | 4231 |
Fibonacci | 4210 | 4213 | 4216 | 4219 | 4222 | 4225 | 4228 |
Camarilla | 4214 | 4214 | 4215 | 4219 | 4217 | 4218 | 4218 |
Woodie's | 4202 | 4209 | 4211 | 4218 | 4220 | 4227 | 4229 |
DeMark's | - | - | 4212 | 4218 | 4220 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2, FINANCIAL TIMES
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog