ภาพรวมเศรษฐกิจเอเชีย

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในขณะที่หุ้นจีนปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนต่างเฝ้ารอการฟื้นตัวของจีนจากการเปิดประเทศอีกครั้ง

ทางด้านดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ลดลง 1% เนื่องจากตลาดยังรอข้อมูลพิ่มเติมจากรัฐบาลเกี่ยวกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคนต่อไป ที่คาดว่าจะมีประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดสามารถคาดเดาทิศทางและท่าทีนโยบายการเงินของ BoJ ได้ จึงส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากข่าวล่าสุด ผู้ว่าการธนาคารฯคนต่อไปมีแนวโน้มที่จะยังคงแบกรับภาระในการดำเนินนโยบายแบบผ่อนปรนต่อไป ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว  

ทางด้านตลาดหุ้นเอเชียที่ประกอบด้วยหุ้นจากธุรกิจเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่อย่าง ดัชนี TAIEX ของไต้หวัน KOSPI ของเกาหลีใต้ และ Hang Seng ของฮ่องกงก็ได้ลดลงระหว่าง 0.3% ถึง 0.6%

ทางด้านหุ้นฝั่งอินเดียยังคงทรงตัว โดยดัชนี BSE Sensex 30 และ Nifty 50 มีแนวโน้มอยู่ในช่วงทรงตัวไปจนถึงระดับต่ำ ก่อนการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อของอินเดียคาดว่าจะผ่อนคลายลงอีกในเดือนมกราคม แต่คาดว่าจะยังคงสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 4%

ในทางกลับกัน ดัชนี Shanghai Shenzhen CSI 300 และ Shanghai Composite ของจีนก็ได้พุ่งขึ้น 0.5% และ 0.6% ตามลำดับ นำโดยหุ้นอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์

โดยจากข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยโดยธนาคารประชาชนจีน (PBOC) เมื่อวันศุกร์ ปริมาณสินเชื่อใหม่ของธนาคารจีนได้พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าของเดือนธันวาคมและเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ ที่ 4.9 ล้านล้านหยวน (720.21 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการโควิดที่เกิดขึ้นในระหว่างเดือน ที่อาจส่งผลให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นสูงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากจำนวนเงินอัดฉีดเพื่อสร้างสภาพคล่องจากรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ความต้องการสินเชื่อที่ฟื้นตัวอย่างเข้มเข็งจะเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ หลังจากมาตรการคุมเข้มโควิดได้ส่งผลกระทบอย่างหนักในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ฉุดการเติบโตของจีนลงมาอยู่ที่ 3% ในปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นอัตราที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี

อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่พุ่งสูงขึ้น มีแนวโน้มที่จะกดดันตลาดเอเชียต่อไป เนื่องจากเงินทุนที่จะไหลเข้ามายังภูมิภาคจะถูกจำกัดมากขึ้น ทั้งยังรวมถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางการผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลาดชันลงต่ำในรอบหลายสิบปี

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) 

CFD JP225 Nikkei 225 Futures - Mar 23

แนวต้านสำคัญ : 27604.8, 27613.1, 27626.7

แนวรับสำคัญ : 27577.6, 27569.3, 27555.7                                                       

1H Outlook

ที่มา: Investing.com      

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 27567.6 - 27577.6 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 27577.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 27614.0 และ SL ที่ประมาณ 27562.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 27604.8 - 27614.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 27626.0 และ SL ที่ประมาณ 27578.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 27604.8 - 27614.8 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 27604.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 27578.0 และ SL ที่ประมาณ 27619.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 27567.6 - 27577.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 27559.0 และ SL ที่ประมาณ 27605.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 14, 2023 01:32PM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2