ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวรอทิศทางนโยบายจากเฟด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ล่าสุดดีดตัวกลับ หลังการเข้าซื้อและควบรวมกิจการของ UBS กับ Credit Suisse และความพยายามของธนาคารกลางทั่วโลกในการเรียกความเชื่อมั่นในระบบการเงินกลับมา

โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 382.6 จุด หรือ 1.2% ในขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 34.9 จุด หรือ 0.9% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 45 จุด หรือ 0.4% เนื่องจากนักลงทุนมองตลาดในแง่บวกมากขึ้นถึงทิศทางนโยบายการเงินของเฟดที่อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากวิกฤติการธนาคารที่เกิดขึ้น

ในขณะที่หุ้นธนาคารบางส่วนร่วงลงในเช้าวันจันทร์ และดีดตัวกลับขึ้นในช่วงท้ายเซสชั่น หลังจากที่ความกังวลในสินทรัพย์ผสมที่มีความเสี่ยงสูงค่อยๆผ่อนคลายลง จากการช่วยเหลือครั้งประวัติศาสตร์ของ Credit Suisse ในช่วงสุดสัปดาห์

ทั้งนี้ ข้อมูลที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ยังคงหนีไม่พ้นการประชุมนโยบายการเงินจากเฟดในวันพฤหัสนี้ โดยก่อนหน้าที่จะเกิดความวุ่นวายในภาคธนาคาร หรือเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุด แต่ปัจจุบัน ตลาดประมาณ 80% คาดว่าเฟดน่าจะเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด และปรับตามความคาดหวังของตลาดที่ 25 จุดในปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากความเสี่ยงจากการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้งนั้นยังคงสูงเกินไป

โดยล่าสุด ตามรายงานของ FedWatch Tool ของ CME ฟิวเจอร์ส Fed funds (FFR) แสดงความน่าจะเป็นที่ลดลงเหลือ 28.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.5%-4.75% และมีโอกาส 71.6% ที่จะปรับอัตราเพิ่มขึ้น 25 จุด ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.4866% เมื่อเทียบกับราคาปิดที่ 3.397% เมื่อวันศุกร์ และอัตราผลตอบแทนระยะสั้นสองปี ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก และเป็นสินทรัพย์ตัวแทนสำหรับการคาดการณ์นโยบายของเฟด ปรับสูงขึ้นแตะ 3.9700% เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ปิดที่ 3.846% โดยหากเฟดปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามการคาดการณ์ของตลาดที่ 25 จุด หรือคงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไว้ อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมปรับสูงขึ้นได้ในช่วงนี้

ทางด้านข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานยอดขายบ้านมือสอง ที่ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ 4.17M ในขณะที่ตัวเลขก่อนหน้าอยู่ที่ 4.00M และจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ที่ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ 197K ในขณะที่ตัวเลขก่อนหน้าอยู่ที่ 192K โดยมีกำหนดเผยแพร่ช่วงค่ำวันอังคารและวันพฤหัสนี้ตามเวลาประเทศไทย

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 3963.4, 3967.1, 3972.9

แนวรับสำคัญ : 3951.8, 3948.1, 3942.3      

5H Outlook

1H Outlook

ที่มา: Investing.com                                      

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 3944.8 - 3951.8 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 3951.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 3965.0 และ SL ที่ประมาณ 3941.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 3963.4 - 3970.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 3981.0 และ SL ที่ประมาณ 3951.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 3963.4 - 3970.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 3963.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 3950.0 และ SL ที่ประมาณ 3973.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 3944.8 - 3951.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 3936.0 และ SL ที่ประมาณ 3964.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Mar 21, 2023 10:21AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2