USD/CHF ยังคงผันผวนเนื่อง

ธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Benchmark Interest Rate) 0.5% สู่ระดับ 1.5% ท่ามกลางความปั่นป่วนของภาคธนาคารจากปัญหาสภาพคล่องของธนาคาร Credit Suisse โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการขึ้นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้อาจจะเป็นการตอกย้ำว่าปัญหาสภาพคล่องของธนาคารอาจจะเกิดขึ้นได้อีก

ทางด้าน Fed เองก็ได้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 นับตั้งแต่วัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 โดยที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แรงมากแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเลยและเป็นไปตามที่คาดการณ์ของตลาด ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย

การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเจ้าหน้าที่ Fed (Dot Plot) อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 5.1% ในปีนี้ บ่งชี้ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งหลังการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.8% ในปี 2567 และ 1.2% ในปี 2568 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5% ทั้งนี้ Fed ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารสหรัฐฯด้วย​  

ทั้งนี้เมื่อดูอัตราเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นเป็น 3.4% จากในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์จะน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็ตาม เศรษฐกิจในประเทศเองก็ไม่ค่อยสู้ดีมากนัก

บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ประเมินว่า SNB ได้กล่าวเป็นนัยว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต หากเงินเฟ้อยังคงไม่เป็นไปตามเป้าของทางการ ท่ามกลางสายตาของหลายประเทศที่จับจ้องไปที่วิกฤติธนาคารของสวิตเซอร์แลนด์ที่เมื่อไม่นานมานี้ UBS Group AG ธนาคารใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์เข้าซื้อ Credit Suisse ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ หวังพยุงไม่ให้เกิดวิกฤติแบงก์รันเหมือนในสหรัฐ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)