เศรษฐกิจจีนยังคงมีปัญหาในการฟื้นตัว
ภาคการผลิตของจีนชะลอตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยในเดือนมีนาคม โดยแสดงให้เห็นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความยืดหยุ่นของอุปสงค์ในประเทศจากการเปิดประเทศในช่วงต้นปี
แต่ตัวเลขของภาคบริการได้พุ่งเกินประมาณการไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี เนื่องจากภาคการบริการยังคงได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ที่ถูกอั้นไว้ช่วงล็อคดาวน์และมาตรการของรัฐบาลในการเพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศ
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเพิ่มขึ้น 51.9 ในเดือนมีนาคม มากกว่าค่าประมาณการที่ 51.5 แต่ต่ำกว่าเดือนก่อนที่อ่านได้ที่ 52.6 ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวหลังจากที่ภาคการผลิตได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แต่ตัวเลขในภาคบริการดีขึ้นมาก โดยที่ดัชนี PMI นอกภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ 58.2 ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 54.3 และการอ่านของเดือนก่อนหน้าที่ 56.3
ซึ่งส่งผลให้ Composite PMI ของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 57 ในเดือนมีนาคม มากกว่าตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 56.4 โดยดัชนียังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
รายงานเมื่อวันศุกร์สอดคล้องกับความคิดเห็นล่าสุดจาก หลี่ เซียง นายกรัฐมนตรีซึ่งกล่าวว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีขึ้นในเดือนมีนาคมหลังจากเริ่มต้นปีที่ค่อนข้างซบเซา
แต่ข้อมูลของวันศุกร์ที่ผ่านมายังแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของจีนจนถึงขณะนี้ได้เบี่ยงเบนไปสู่ภาคบริการเป็นส่วนใหญ่ แต่ภาคการผลิตซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญสำหรับเศรษฐกิจจีนยังคงตามหลังอยู่พอสมควร
นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงดำเนินมาตรการเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายในท้องถิ่นและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้
แต่ภาคการผลิตต้องเผชิญกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวสำหรับสินค้าส่งออกของจีน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและอัตราเงินเฟ้อที่ได้ลดการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าธุรกิจในท้องถิ่นได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายข้อจำกัดต่อต้านโควิดส่วนใหญ่เมื่อต้นปีนี้ แต่โรงงานในประเทศยังคงมีผลการผลิตต่ำกว่ากำลังการผลิตทั้งหมดที่มี
ทั้งนี้รัฐบาลจีนก็กำลังสนับสนุนการบริโภคในท้องถิ่นและการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ในขณะที่รัฐบาลคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโต 5% ในปี 2023 นักวิเคราะห์มีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของจีน และ Goldman Sachs คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 6% ในปีนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 6.9002, 6.9104, 6.9260
แนวรับสำคัญ: 6.8744, 6.8588, 6.8486
| ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
| Classic | 6.8486 | 6.8588 | 6.8744 | 6.8846 | 6.9002 | 6.9104 | 6.9260 |
| Fibonacci | 6.8588 | 6.8687 | 6.8747 | 6.8846 | 6.8945 | 6.9005 | 6.9104 |
| Camarilla | 6.8830 | 6.8854 | 6.8877 | 6.8846 | 6.8925 | 6.8948 | 6.8972 |
| Woodie's | 6.8514 | 6.8602 | 6.8772 | 6.8860 | 6.9030 | 6.9118 | 6.9288 |
| DeMark's | - | - | 6.8795 | 6.8872 | 6.9054 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6.8588 - 6.8744 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 6.8744 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.9104 และ SL ที่ประมาณ 6.8486 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 6.9002 - 6.9104 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.9260 และ SL ที่ประมาณ 6.8588 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6.9002 - 6.9104 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 6.9002 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8588 และ SL ที่ประมาณ 6.9260 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 6.8588 - 6.8744 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8486 และ SL ที่ประมาณ 6.9104 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 3 เมษายน 2566 12:34 น. GMT+7
| ชื่อ | มูลค่า | Action |
| RSI(14) | 58.670 | ซื้อ |
| STOCH(9,6) | 58.519 | ซื้อ |
| STOCHRSI(14) | 100.000 | ซื้อมากเกินไป |
| MACD(12,26) | 0.001 | ซื้อ |
| ADX(14) | 26.558 | ซื้อ |
| Williams %R | -28.250 | ซื้อ |
| CCI(14) | 107.1304 | ซื้อ |
| ATR(14) | 0.0100 | ผันผวนสูง |
| Highs/Lows(14) | 0.0090 | ซื้อ |
| Ultimate Oscillator | 61.048 | ซื้อ |
| ROC | 0.042 | ซื้อ |
| Bull/Bear Power(13) | 0.0263 | ซื้อ |
|
ซื้อ:10 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:0 สรุป:ซื้อทันที |
||
