ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯล่าสุด
ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯล่าสุดซื้อขายในกรอบเมื่อวันจันทร์ โดยดัชนีส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากการขาดทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะปิดตลาดทรงตัวจากกำไรในภาคอุตสาหกรรม น้ำมันและก๊าซ รวมถึงวัสดุพื้นฐานที่หนุนดัชนีปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่การขาดทุนในกลุ่มเทคโนโลยี โทรคมนาคม และสาธารณูปโภคกดดันดัชนี โดยตลาดจะจับตาดูรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆ และข้อมูลตัวเลข CPI รวมถึงทิศทางนโยบายจากเฟดในสัปดาห์นี้
โดยหุ้นในกลุ่มธุรกิจ Mega cap หรือบริษัทขนาดใหญ่ ฉุดดัชนี Nasdaq ลงเล็กน้อย ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมช่วยหนุนดาวโจนส์ในแดนบวก โดยดัชนี S&P 500 ปิดเซสชั่นปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย กดดันจากการขาดทุนในกลุ่มธุรกิจบริการสื่อสารและสาธารณูปโภค และหนุนโดยหุ้นในกลุ่มชิปที่ปรับตัวสูงขึ้น ชดเชยความกังวลในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Apple ถึงแนวโน้มนโยบายแบบเข้มงวดของเฟดหลังรายงานการจ้างงานที่ยังคงแข็งแกร่งในเดือนมีนาคม
ทั้งนี้ ธุรกิจการขนส่งบางกลุ่ม เซมิคอนดักเตอร์ กลุ่มธุรกิจ Small cap หรือบริษัทขนาดย่อย และธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรม มีผลการดำเนินงานโดยรวมสูงกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆในตลาดวงกว้าง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทนต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากธนาคารกลางสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่ากลุ่มธนาคารในวอลล์สตรีทส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับผลประกอบการประจำไตรมาสแรกที่ลดลงไปจนถึงสิ้นปี จากวิกฤตการธนาคารในภูมิภาคเมื่อเดือนที่แล้วและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Refinitiv Lipper กองทุนตลาดเงินสหรัฐฯยังคงพบปริมาณเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน ล่าสุดพบจำนวนเงินเข้าสุทธิ 42.51 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หลังจากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณถึงการผลิตที่ชะลอตัวและตลาดแรงงานที่เย็นลง
ในขณะเดียวกัน กองทุนตราสารหนี้ของสหรัฐฯ พบการเข้าซื้อเพิ่มมากขึ้นล่าสุดสุทธิ 8.1 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. ในขณะที่กองทุนตราสารทุนของสหรัฐฯล่าสุดพบจำนวนเงินไหลออกมูลค่า 10.34 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบ 20.75 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยนักลงทุนเทขายกองทุนตราสารทุนทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กของสหรัฐที่ 5.14 พันล้านดอลลาร์ 102 ล้านดอลลาร์ และ 1.81 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ โดยพบการเทขายกองทุนการเงินและกองทุนสุขภาพมูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์และ 694 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ในขณะที่กองทุนเทคโนโลยีพบเงินไหลเข้ามูลค่า 566 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจประกอบด้วย ดัชนีมุมมองเศรษฐกิจของธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB คำแถลงจากเฟด รวมถึงรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่มีแนวโน้มเย็นตัวลงตามข้อมูลการผลิตและการจ้างงาน จึงอาจส่งผลให้ดัชนีสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้อยู่บ้างเล็กน้อย ในขณะที่แนวโน้มขาขึ้นยังคงถูกจำกัดจากความกังวลในเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 33639.4, 33652.6, 33674.1
แนวรับสำคัญ : 33596.4, 33583.2, 33561.7
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 33590.4 - 33596.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 33596.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33645.0 และ SL ที่ประมาณ 33587.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 33639.4 - 33645.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33665.0 และ SL ที่ประมาณ 33592.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 33639.4 - 33645.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 33639.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33596.0 และ SL ที่ประมาณ 33648.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 33590.4 - 33596.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 33570.0 และ SL ที่ประมาณ 33642.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Apr 11, 2023 11:39AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 33539.0 | 33561.7 | 33595.2 | 33617.9 | 33651.4 | 33674.1 | 33707.6 |
Fibonacci | 33561.7 | 33583.2 | 33596.4 | 33617.9 | 33639.4 | 33652.6 | 33674.1 |
Camarilla | 33613.3 | 33618.5 | 33623.6 | 33617.9 | 33634.0 | 33639.1 | 33644.3 |
Woodie's | 33544.6 | 33564.5 | 33600.8 | 33620.7 | 33657.0 | 33676.9 | 33713.2 |
DeMark's | - | - | 33606.6 | 33623.6 | 33662.8 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog