เศรษฐกิจในประเทศจีนยังคงต้องจับตาดูต่อไป
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าโดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการคสดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นตามข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงานและการผ่อนคลายความเครียดในระบบธนาคาร และมีการประกาศว่าเศรษฐกิจสหรัฐสร้างงาน 236,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม และการว่างงานลดลงเหลือ 3.5%
กระทรวงแรงงานสหรัฐได้รายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐพุ่งขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 239,000 ตำแหน่ง และทางกระทรวงได้ปรับตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์ให้สูงขึ้นด้วย โดยระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มมากขึ้น 326,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิมที่ 311,000 ตำแหน่ง ทางด้านอัตราการว่างงานปรับลงจาก 3.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ สู่ 3.5% ในเดือนมีนาคม ซึ่งใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี
ส่วนค่าแรงเฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยต่อชั่วโมงแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 4.2% ในเดือนมีนาคม หลังจากพุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ถึงแม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง การจ้างงานในบางภาคธุรกิจก็ปรับลดลงปานกลาง โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคโรงงานที่ปรับลดลงราว 1,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนการจ้างงานในภาคก่อสร้างปรับลดลง 9,000 ตำแหน่ง และการจ้างงานในภาคค้าปลีกลดลง 14,600 ตำแหน่ง
ในสัปดาห์นี้ จีนจะได้เผยรายงานการให้สินเชื่อและเงินเฟ้อประจำเดือนมีนาคม โดยจำนวนสินเชื่อรายใหม่ของจีนมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นและสูงกว่าคาดและ CPI อยู่ที่ 0.7% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้พอสมควร ทั้งนี้จีนจะเปิดเผยข้อมูลจีดีพี และกิจกรรมทางเศรษฐฏิจในไตรมาสแรกในสัปดาห์หน้า ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่า ข้อมูลเหล่านี้อาจจะทำให้เห็นภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากการประกาศข้างต้น จีนได้มีการเพิ่มทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่ 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.184 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.149 ล้านล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นจาก 3.133 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ จีนมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก
นอกจากทุนสำรองเงินตราที่เพิ่มขึ้น จีนยังถือครองทองคำ 66.50 ล้านทรอยออนซ์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นจาก 65.92 ล้านทรอยออนซ์ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่มูลค่าของทองคำสำรองของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1.3165 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม จาก 1.2028 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 6.8876, 6.8894, 6.8919
แนวรับสำคัญ: 6.8833, 6.8808, 6.8790
จุดกลับตัว 11 เมษายน 2566 17:15 น. GMT+7
| ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
| Classic | 6.8790 | 6.8808 | 6.8833 | 6.8851 | 6.8876 | 6.8894 | 6.8919 |
| Fibonacci | 6.8808 | 6.8824 | 6.8835 | 6.8851 | 6.8867 | 6.8878 | 6.8894 |
| Camarilla | 6.8847 | 6.8851 | 6.8855 | 6.8851 | 6.8863 | 6.8867 | 6.8871 |
| Woodie's | 6.8794 | 6.8810 | 6.8837 | 6.8853 | 6.8880 | 6.8896 | 6.8923 |
| DeMark's | - | - | 6.8843 | 6.8856 | 6.8886 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6.8808 - 6.8833 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 6.8833 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8894 และ SL ที่ประมาณ 6.8790 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 6.8876 - 6.8894 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8919 และ SL ที่ประมาณ 6.8808 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6.8876 - 6.8894 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 6.8876 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8808 และ SL ที่ประมาณ 6.8919 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 6.8808 - 6.8833 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8790 และ SL ที่ประมาณ 6.8894 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 11 เมษายน 2566 17:15 น. GMT+7
| ชื่อ | มูลค่า | Action |
| RSI(14) | 60.825 | ซื้อ |
| STOCH(9,6) | 64.455 | ซื้อ |
| STOCHRSI(14) | 100.000 | ซื้อมากเกินไป |
| MACD(12,26) | 0.002 | ซื้อ |
| ADX(14) | 39.899 | ซื้อ |
| Williams %R | -22.569 | ซื้อ |
| CCI(14) | 132.1214 | ซื้อ |
| ATR(14) | 0.0044 | ผันผวนสูง |
| Highs/Lows(14) | 0.0063 | ซื้อ |
| Ultimate Oscillator | 60.588 | ซื้อ |
| ROC | 0.148 | ซื้อ |
| Bull/Bear Power(13) | 0.0081 | ซื้อ |
|
ซื้อ:10 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:0 สรุป:ซื้อทันที |
||
