เงินเฟ้อสหรัฐฯชะลอสวนทางยูโรโซน

นอกจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนจะปรับตัวดีขึ้นในเดือนเมษายนหลังร่วงลงในเดือนก่อน จากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่เผยแพร่โดย Eurostat เมื่อวันพฤหัสบดีล่าสุด ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนกุมภาพันธ์ก็ได้เพิ่มขึ้น 1.5% มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.0% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.0% มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.5%  เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตสินค้าคงทนและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่คงทน

ทางด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ยังคงไม่ได้ข้อสรุปถึงอัตราที่เหมาะสม เนื่องจากความเปราะบางจากความผันผวนของภาคการเงินในเดือนที่แล้ว รวมถึงผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาที่ยังส่งผ่านไปยังระบบเศรษฐกิจไม่เต็มที่ ทำให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่สำคัญอย่างมากในการพิจารณาถึงทิศทางนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยอัตราดอกเบี้ยที่ถกเถียงกันในบรรดาผู้ออกนโยบายของแต่ละประเทศสมาชิกอยู่ตั้งแต่ 0.25% ไปจนถึง 0.50%

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อโดยรวมของยูโรโซนยังคงในระดับสูง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีในการส่งสัญญาณแนวโน้มเงินเฟ้อระยะกลาง ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.7% ในเดือนที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าอาจจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเดือน ชี้ให้เห็นการเติบโตของราคาหรืออัตราเงินเฟ้อที่หนืดกว่าที่คิด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงชะลอตัวตามราคาของพลังงานที่มีการปรับลดลง โดยการเติบโตของค่าจ้างยังคงเป็นปัญหาใหญ่ยูโรโซน เนื่องจากตลาดแรงงานที่ยังคงมีความตึงตัว

ทางด้านคู่สกุลเงินดอลลาห์สหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดี หนุนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมีนาคม หนุนความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจพักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม

โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อวันพุธอยู่ที่ 5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม ลดลงจาก 6% ในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.6% จาก 5.5% ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3%

ทางด้านอัตราเงินเฟ้อภาคบริการสหรัฐฯมีสัญญาณชะลอตัว แม้ว่าค่าเช่าที่พักอาศัยจะยังสูง แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปี ส่วนราคาอาหารไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯล่าสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 239,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่ตัวเลขคาดการณ์ไว้ที่ 232,000 ราย

ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนหน้า แต่จากความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่สูงอย่างต่อเนื่องและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สะท้อนมายังตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงถึงประมาณ 70% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนพฤษภาคม และมีโอกาส 30% ที่จะคงอัตราดอกเบี้ย หากไม่มีปัจจัยจากภาคการเงินเข้ามาแทรกแซง โดยเฟดยังคงไม่เปลี่ยนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจากเมื่อเดือนธันวาคมที่ 5.1% ในปี 2566 จึงอาจส่งผลให้เงินยูโรอยู่ในช่วงขาขึ้นได้อยู่บ้าง และอาจปรับตัวลดลงตามแนวรับไปจนถึงทรงตัว รอข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเมษายนและผลการสำรวจการปล่อยสินเชื่อของธนาคารประจำไตรมาสของ ECB ต้นเดือนพฤษภาคม

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD EUR/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.1058, 1.1062, 1.1067

แนวรับสำคัญ : 1.1048, 1.1044 , 1.1039    

5H Outlook

1H Outlook      

ที่มา: Investing.com                                           

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.1043 - 1.1048 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.1048ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1061 และ SL ที่ประมาณ 1.1040 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.1058 - 1.1063 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1073และ SL ที่ประมาณ 1.1045 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.1058 - 1.1063 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.1058ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1047 และ SL ที่ประมาณ 1.1066 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.1043 - 1.1048 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1036และ SL ที่ประมาณ 1.1061 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Apr 14, 2023 08:08AM GMT+7

Sources: Investing 1, Investing 2