คาดธนาคารกลางอังกฤษและสหรัฐฯยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในขณะที่เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาได้ แต่ในขณะเดียวกันการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ต้องเผชิญกับการหยุดชะงักในปีที่ผ่านมา แม้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า BoE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนหน้าเป็น 4.5% จาก 4.25% ซึ่งจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 12 นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564
นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั่วโลก และเตือนถึงผลกระทบจากปัญหาในภาคการเงินที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดยในสัปดาห์นี้ สหราชอาณาจักรมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนกุมภาพันธ์ในวันอังคาร ตามด้วยข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) เดือนมีนาคมในวันถัดไป และข้อมูล PMI (ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ) ในช่วงบ่ายวันศุกร์
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนงานที่มีการโฆษณาทางออนไลน์ของอังกฤษล่าสุด ณ วันที่ 6 เมษายน ต่ำกว่าปีก่อนหน้าถึง 18% แม้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1% จากสัปดาห์ก่อน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาอยู่ที่ 10.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากราคาอาหารที่สูงขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่าข้อมูล CPI ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ น่าจะลดลงเหลือ 9.8% แต่จะยังคงสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปและสหรัฐฯ
ทางด้านคู่เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีเมื่อเย็นวันศุกร์ หลังจากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯส่งสัญญาณว่ายังไม่พร้อมที่จะพักการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงร้อนแรงเกินไป
ทั้งนี้ ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63.5 ในเดือนเมษายน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์และตัวเลขก่อนหน้าที่ 62.0 ในขณะที่ครัวเรือนคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% จาก 3.6%ในช่วง 12 เดือนหรือ 1 ปีข้างหน้า โดยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ 5 ปีไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.9% เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 3 พฤษภาคม โดยตลาดฟิวเจอร์กองทุนเฟด (FFR) สะท้อนความน่าจะเป็นที่ 81% ที่เฟดจะขึ้นอีก 25 จุด แม้เฟดจะออกมายอมรับในรายงานการประชุมของธนาคารกลางเมื่อเดือนมีนาคมว่า มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้นในปลายปีนี้ หลังจากความวุ่นวายล่าสุดในภาคการเงิน ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปี และคาดการณ์ว่าสหรัฐฯอาจเผชิญกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปี
โดยข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ประกอบด้วย รายงานรายสัปดาห์จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางการปลดพนักงานที่มากขึ้นตั้งแต่ต้นปี รวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์มีแนวโน้มอ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอยู่บ้างในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2417, 1.2420, 1.2426
แนวรับสำคัญ : 1.2405, 1.2402 , 1.2396
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2400 - 1.2405 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2405 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2417 และ SL ที่ประมาณ 1.2397 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2417 - 1.2422 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2428 และ SL ที่ประมาณ 1.2403 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2417 - 1.2422 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.2417 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2401 และ SL ที่ประมาณ 1.2425 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2400 - 1.2405 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2390 และ SL ที่ประมาณ 1.2419 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Apr 17, 2023 10:01AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2386 | 1.2396 | 1.2401 | 1.2411 | 1.2416 | 1.2426 | 1.2431 |
Fibonacci | 1.2396 | 1.2402 | 1.2405 | 1.2411 | 1.2417 | 1.2420 | 1.2426 |
Camarilla | 1.2404 | 1.2405 | 1.2407 | 1.2411 | 1.2409 | 1.2411 | 1.2412 |
Woodie's | 1.2386 | 1.2396 | 1.2401 | 1.2411 | 1.2416 | 1.2426 | 1.2431 |
DeMark's | - | - | 1.2399 | 1.2410 | 1.2414 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog