ดอลลาร์/ยูโรยังคงทรงตัวเพราะปัจจัยต่างๆ
เงินยูโรอาจแข็งค่าขึ้นหากตลาดเพิ่มความคาดหวังเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปในการประชุมครั้งหน้า ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับดัชนี PMI ของสหรัฐฯ และดัชนี PMI ของยูโรโซนที่กำลังจะประกาศในเร็วๆนี้ด้วย
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในอนาคตด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากตลาดได้ปรับตัวรับอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะแตะจุดสูงสุดที่ 3.75%
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของเยอรมนีบวก 0.02% มาที่ 2.453% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ไม่กี่วันหลังจากความวิตกเกี่ยวกับสถานะของภาคธนาคารทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล
สัญญาฟอร์เวิร์ดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยูโรของ ECB ที่ส่งมอบเดือนพ.ย.2023 อยู่ที่ 3.7% ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะแตะระดับสูงสุดที่ 3.8% ซึ่งน่าจะไปถึงระดับดังกล่าวด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สามครั้ง
ทางดอลลาร์เองก็ได้แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และดีดตัวขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีของสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากมีการเปิดเผยกำไรจากธนาคารยักษ์ใหญ่ในวอลสตรีทบางแห่งได้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาคส่วนนี้ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างรวดเร็วและผู้กำหนดนโยบายของเฟดแสดงความกังวลว่าความอ่อนแอในภาคการธนาคารอาจส่งผลให้เกิด “ภาวะถดถอยเล็กน้อย” ในปีนี้ นักลงทุนได้เริ่มเดิมพันถึงการหยุดชั่วคราวในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เราได้เห็นการประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2023 ที่แข็งแกร่งจาก JPMorgan Chase, Citigroup และ Wells Fargo ทำให้ข้อกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการธนาคารที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วหายไปและได้มีการคาดการณ์อีกครั้งว่าจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกเรื่อยๆ
นอกจากนี้ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ เรียกร้องให้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องและเริ่มแทรกเข้าสู่สินค้าและบริการ ทั้งนี้ โดยภาพรวมทางเศรษฐกิจเองก็ยังคงแสดงให้เห็นว่ายังสามารถขึ้นดอกเบี้ยต่อไปได้
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “เนื่องจากสภาวะทางการเงินไม่ได้ตึงเครียดอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและค่อนข้างตึงตัว และอัตราเงินเฟ้อก็สูงกว่าเป้าหมายมาก ดังนั้นนโยบายการเงินจำเป็นต้องเข้มงวดมากขึ้นเพื่อขจัดเงินเฟ้อให้ได้เร็วที่สุด”
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 0.9153, 0.9162, 0.9167
แนวรับสำคัญ: 0.9138, 0.9132, 0.9123
จุดกลับตัว 18 เมษายน 2566 15:17 น. GMT+7
| ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
| Classic | 0.9123 | 0.9132 | 0.9138 | 0.9147 | 0.9153 | 0.9162 | 0.9167 |
| Fibonacci | 0.9132 | 0.9138 | 0.9141 | 0.9147 | 0.9153 | 0.9156 | 0.9162 |
| Camarilla | 0.9140 | 0.9141 | 0.9142 | 0.9147 | 0.9145 | 0.9146 | 0.9147 |
| Woodie's | 0.9121 | 0.9131 | 0.9136 | 0.9146 | 0.9151 | 0.9161 | 0.9165 |
| DeMark's | - | - | 0.9135 | 0.9145 | 0.9150 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.9132 - 0.9138 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.9138 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9162 และ SL ที่ประมาณ 0.9123 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.9153 - 0.9162 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9167 และ SL ที่ประมาณ 0.9132 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.9153 - 0.9162 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.9153 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9132 และ SL ที่ประมาณ 0.9167 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.9132 - 0.9138 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9123 และ SL ที่ประมาณ 0.9162 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 18 เมษายน 2566 15:17 น. GMT+7
| ชื่อ | มูลค่า | Action |
| RSI(14) | 48.213 | ถือหุ้นไว้ |
| STOCH(9,6) | 74.456 | ซื้อ |
| STOCHRSI(14) | 71.285 | ซื้อ |
| MACD(12,26) | 0.000 | ซื้อ |
| ADX(14) | 39.908 | ถือหุ้นไว้ |
| Williams %R | -37.319 | ซื้อ |
| CCI(14) | 57.4769 | ซื้อ |
| ATR(14) | 0.0025 | ผันผวนน้อยลง |
| Highs/Lows(14) | 0.0004 | ซื้อ |
| Ultimate Oscillator | 57.064 | ซื้อ |
| ROC | 0.696 | ซื้อ |
| Bull/Bear Power(13) | 0.0019 | ซื้อ |
|
ซื้อ:9 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:2 สรุป:ซื้อทันที |
||
