เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตได้อีก
หยวนอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สนใจข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของจีน เนื่องจากข้อมูลพื้นฐานบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวหลังโควิดยังไม่ค่อยมั่นคงมากนัก
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 4.5% ในไตรมาสแรกซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เคร่งครัดมากเกินไป และถือว่าเป็นการหนุนภาคธุรกิจและการอุปโภคบริโภค
ภายในประเทศให่เกิดการคึกคักมากขึ้น
นอกจากการประกาศทางด้านเศรษฐกิจที่ได้ประกาศออกมา ยอดค้าปลีกยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ซึ่งแตะระดับสูงสุดเกือบ 2 ปี โดยจะถือเป็นหนึ่งในความหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายเคน เฉิง หัวหน้านักกลยุทธ์เอเชียจากมิซูโฮ แบงก์กล่าวว่า "ขณะที่ข้อมูลจีดีพีทั่วไปออกมาดี แต่ข้อมูลเดือนมี.ค.บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่ไม่ต่อเนื่อง การอุปโภคบริโภคในประเทศเป็นเสาหลักที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาน่าผิดหวัง เมื่อดูจากการส่งออกที่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง"
Ken Cheung หัวหน้านักยุทธศาสตร์ FX ของเอเชียที่ Mizuho Bank กล่าวว่า "ในขณะที่ตัวเลข GDP พาดหัวเป็นไปในเชิงบวก แต่ข้อมูลในเดือนมีนาคมชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ไม่สม่ำเสมอ" "การบริโภคในประเทศได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับน่าผิดหวัง เนื่องจากการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง"
ดอลลาร์ก็ไปมีการแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตในรัฐนิวยอร์กเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ยกระดับความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้หยวนแทบไม่ตอบสนองต่อข้อมูลจีดีพี โดยมุมมองดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนบางส่วนที่เชื่อว่าปักกิ่งสามารถผ่อนปรนนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งตรงกันข้ามกับธนาคารกลางสหรัฐที่มีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม
โจว ห่าว นักเศรษฐศาสตร์จาก Guotai Junan International กล่าว "ผมคิดว่าข้อมูลโดยรวมดี รวมทั้งตัวเลขพาดหัว การบริโภค และข้อมูลการจ้างงาน ทั้งนี้ผมยังคิดว่านโยบายการเงินจะยังคงสนับสนุนต่อไป และโดยทั่วไปแล้ว โอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยยังคงค่อนข้างสูง"
โดย ณ เวลานี้ 14:04 น. GMT+7 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ก้ได้มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจนมาอยู่ที่ 101.86 โดยถือว่าเป็นการย้ำว่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นได้อีกเล็กน้อยหลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 6.8861, 6.8887, 6.8939
แนวรับสำคัญ: 6.8783, 6.8731, 6.8705
จุดกลับตัว 19 เมษายน 2566 14:06 น. GMT+7
| ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
| Classic | 6.8705 | 6.8731 | 6.8783 | 6.8809 | 6.8861 | 6.8887 | 6.8939 |
| Fibonacci | 6.8731 | 6.8761 | 6.8779 | 6.8809 | 6.8839 | 6.8857 | 6.8887 |
| Camarilla | 6.8813 | 6.8820 | 6.8827 | 6.8809 | 6.8841 | 6.8848 | 6.8855 |
| Woodie's | 6.8717 | 6.8737 | 6.8795 | 6.8815 | 6.8873 | 6.8893 | 6.8951 |
| DeMark's | - | - | 6.8795 | 6.8815 | 6.8874 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 6.8731 - 6.8783 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 6.8783 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8887 และ SL ที่ประมาณ 6.8705 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 6.8861 - 6.8887 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8939 และ SL ที่ประมาณ 6.8731 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 6.8861 - 6.8887 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 6.8861 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8731 และ SL ที่ประมาณ 6.8939 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 6.8731 - 6.8783 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6.8705 และ SL ที่ประมาณ 6.8887 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 19 เมษายน 2566 14:06 น. GMT+7
| ชื่อ | มูลค่า | Action |
| RSI(14) | 61.849 | ซื้อ |
| STOCH(9,6) | 49.454 | ถือหุ้นไว้ |
| STOCHRSI(14) | 100.000 | ซื้อมากเกินไป |
| MACD(12,26) | 0.002 | ซื้อ |
| ADX(14) | 26.701 | ซื้อ |
| Williams %R | -14.182 | ซื้อมากเกินไป |
| CCI(14) | 276.3039 | ซื้อมากเกินไป |
| ATR(14) | 0.0056 | ผันผวนน้อยลง |
| Highs/Lows(14) | 0.0113 | ซื้อ |
| Ultimate Oscillator | 68.095 | ซื้อ |
| ROC | 0.277 | ซื้อ |
| Bull/Bear Power(13) | 0.0216 | ซื้อ |
|
ซื้อ:7 ขาย:0 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ซื้อทันที |
||
