ญี่ปุ่นยังต้องการเงินเฟ้ออยู่

นายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ตอกย้ำความจำเป็นที่ต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไปในขณะนี้ แต่ก็ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าอัตราเงินเฟ้อ และการขึ้นค่าจ้างสูงเกินที่คาดไว้

เขาระบุว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินในขณะนี้อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อในอนาคตลดลง ซึ่งกำลังชะลอตัวอยู่แล้ว เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าแตะจุดสูงสุด ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงว่า เขาไม่รีบร้อนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย "เราอาจจะเห็นเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดอีก ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าวิตกมาก แต่ถ้าค่าจ้างและเงินเฟ้อเร่งตัวเร็วเกินคาด และสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน BOJ ก็พร้อมที่จะจัดการด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย" 

ได้มีการประกาศดัชนีผู้บริโภคพื้นฐาน (CPI) ของญี่ปุ่นยังคงทรงตัวในเดือนมีนาคมจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.1% แม้ว่าตัวเลขจะต่ำกว่าจุดสูงสุดในรอบ 40 ปีที่เห็นเมื่อต้นปีนี้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือเป้าหมายประจำปีของ BOJ ที่ 2% ทั้งนี้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ของญี่ปุ่น โดยจะประกอบด้วยภาคการผลิตและภาคบริการ ได้ผลตัวเลขออกมาน้อยกว่าการคาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน

สิ่งนี้อาจเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ธนาคารกลางของญี่ปุ่นมีการใช้นโยบายที่เข้มงวดเป็นพิเศษในปีนี้ โดยธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นอาจเริ่มมีความคิดที่จะทบทวนผลกระทบของการผ่อนคลายทางการเงินที่ได้ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งจะเป็นหัวข้อหารือในการประชุมนโยบายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ อาจจะไม่ใช่การปรับเชิงนโยบายในทันที แต่จะมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยเชิงโครงสร้างแทน

หนังสือพิมพ์ Sankei รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า BOJ อาจเริ่มหารือเกี่ยวกับการทบทวนนโยบายในวันศุกร์ที่่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกที่มี คาซูโอะ อุเอดะ เป็นประธาน กล่าวได้ว่าอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะดำเนินการทบทวนนโยบายการเงินของ BOJ อย่างครอบคลุมย้อนหลังไปถึงการต่อสู้ที่ยืดเยื้อกับภาวะเงินฝืดเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว

ในการประชุมสัปดาห์นี้ BOJ คาดว่าจะคงเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายใต้การควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) ซึ่งแนะนำอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ -0.1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ประมาณ 0%

นาโอมิ มุกุรุมะ นักเศรษฐศาสตร์การตลาดอาวุโสของ Mitsubishi UFJ Morgan Stanley Securities กล่าวว่า "หาก อุเอดะ ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการดำเนินการทบทวนนโยบาลที่ผ่านมา นั่นอาจสะท้อนถึงความไม่เต็มใจของ BOJ ที่จะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในครั้งต่อไป" 

ดัชนีดอลลาร์ (DXY) มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหกสัปดาห์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดบางคนเรียกร้องให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดแห่งฟิลาเดลเฟียเตือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกและจะอยู่นานขึ้น แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะผ่อนคลายลงก็ตาม

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 134.59, 134.71, 134.97

แนวรับสำคัญ: 134.20, 133.95, 133.82

ที่มา: Investing.com