สรุปราคาทองคําวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปิดปรับตัวเพิมขึ้น 3.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคําในวันทําการสุดท้ายของปี 2020 จะได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 232,555 ราย
อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของราคาทองคําเป็นไปอย่างจํากัด เพราะโดยรวมแล้วราคาทองคําในระยะนี้ยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ในวงกว้างว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนําของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที 46 ของสหรัฐ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ หลังเข้ารับตําแหน่งในวันที 20 ม.ค. ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์ยังคงเคลือนไหวไม่ไกลจากระดับตําสุดจากระดับตําสุดในรอบกว่า 2 ปี พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสียงจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน
นอกจากนี้ราคาทองคํายังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากเรือรบ 2 ลําของสหรัฐได้ทําการแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันในวันที 31 ธ.ค. สร้างความไม่พอใจให้กับจีน ส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทางตลาดหุ้นได้เริ่มกระบวนการถอดบริษัทโทรคมนาคมชั้นนําของจีน 3 แห่งออกจากตลาดแล้ว ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิม +0.88 ตัน ในวันพฤหัสบดี ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ราคาทองคําปิดตลาดในวันทําการสุดท้ายของปี 2021 ที่ระดับ 1,897.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมกับปิดตลาดในเดือนธ.ค.ด้วยการปรับตัวเพิมขึ้น 6.8% และปิดตลาดในปี 2020 ด้วยปรับตัวสูงขึน 25% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึนในรายปีครั้งใหญ่ทีสุดนับตังแต่ปี 2010
ขณะทีเช้านี้ราคาทองพุ่งต่อแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ M,NM3.OP ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางการระบาดของ COVID-MN ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต และข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง
คําแนะนํา
ลุ้นที่ราคาทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,921 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขาย ทํากําไรระยะสั้นออกมาเมื่อราคาทองคําอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,900-1,889 ดอลลาร์ต่อออนซ์