นักลงทุนเริ่มคลายกังวลหลังการเข้าซื้อ First Republic Bank
ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯล่าสุดปรับตัวต่ำเล็กน้อย หลังจากการเข้าซื้อกิจการ First Republic Bank (NYSE:FRC) จาก JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) ก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ และผลประกอบการรายไตรมาสที่มีการรายงานอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันจันทร์ หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐแคลิฟอร์เนียได้ยึดธนาคาร First Republic ก่อนที่ JPMorgan จะเข้าซื้อ ซึ่งนับเป็นความล้มเหลวของธนาคารสหรัฐฯรายใหญ่อันดับสามในรอบสองเดือน ส่งผลให้หุ้นของ JPMorgan เพิ่มขึ้น 2% ในวันจันทร์ ในขณะที่หุ้นของธนาคาร First Republic ร่วงลง 43.3% ก่อนเปิดเซสชั่นในวันจันทร์
ทั้งนี้ First Republic เป็นหนึ่งในผู้ให้กู้ระดับภูมิภาคของสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตความเชื่อมั่นในภาคการธนาคารมากที่สุดในเดือนมีนาคม โดยผู้ฝากเงินจำนวนมากต่างถอนเงินมากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก หลังความตื่นตระหนกจากการล่มสลายของธนาคารขนาดกลางอีกสองแห่งของสหรัฐฯก่อนหน้า ส่งผลให้หุ้นของธนาคารตกต่ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้การคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯเริ่มไม่ชัดเจน แม้ตลาดส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25 จุดในสัปดาห์นี้ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง และอาจหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในการประชุมเดือนมิถุนายน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และจากความวุ่นวายในภาคธนาคารเมื่อเดือนมีนาคมที่ทำให้การปล่อยสินเชื่อเข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้ กิจกรรมในภาคการผลิตของสหรัฐฯขยับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในเดือนเมษายน โดย ISM PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ 47.1 มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 46.8 และตัวเลขครั้งก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับดีขึ้นและการจ้างงานที่ดีดตัวขึ้น ในขณะที่การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ +0.3% หลังจาก -0.3% ในเดือนก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนในโครงสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการสร้างที่อยู่อาศัยยังคงตกต่ำท่ามกลางอัตรากู้ยืมที่สูงขึ้น ซึ่งยังคงส่งสัญญาณและเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นในวงกว้าง และลดลงมากที่สุดในกลุ่มดัชนี S&P 500 ถึง 1.3% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง และจากราคาหุ้นที่ลดลงของ Exxon Mobil Corp (NYSE:XOM) หลังจากที่ Goldman Sachs ปรับลดการคาดการณ์น้ำมันมาอยู่ในระดับทรงตัว จากที่ประเมินว่าควรซื้อก่อนหน้านี้ โดยชี้ถึงการประเมินมูลค่าที่ลดลงของบริษัทพลังงานในช่วงนี้ ในขณะที่ผลประกอบการไตรมาสแรกจากบริษัทในกลุ่มดัชนี S&P 500 อยู่ในเกณฑ์เหนือความคาดหมายเป็นส่วนใหญ่ ช่วยผ่อนคลายความกังวลทางเศรษฐกิจลงเล็กน้อย จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยรวมในช่วงนี้ยังคงทรงตัวไปจนถึงปรับตัวลงรอความชัดเจนของทิศทางนโยบายจากเฟดกลางสัปดาห์นี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US 500 [S&P 500]
แนวต้านสำคัญ : 4176.5, 4182.0, 4191.1
แนวรับสำคัญ : 4158.3, 4152.8, 4143.7
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4153.3 - 4158.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4158.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4176.5 และ SL ที่ประมาณ 4150.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4176.5 - 4181.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4191.0 และ SL ที่ประมาณ 4154.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4176.5 - 4181.5 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4176.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4152.4 และ SL ที่ประมาณ 4184.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4153.3 - 4158.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4143.0 และ SL ที่ประมาณ 4181.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points May 02, 2023 10:21AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 4128.7 | 4143.7 | 4152.4 | 4167.4 | 4176.1 | 4191.1 | 4199.8 |
Fibonacci | 4143.7 | 4152.8 | 4158.3 | 4167.4 | 4176.5 | 4182.0 | 4191.1 |
Camarilla | 4154.5 | 4156.7 | 4158.8 | 4167.4 | 4163.2 | 4165.3 | 4167.5 |
Woodie's | 4125.5 | 4142.1 | 4149.2 | 4165.8 | 4172.9 | 4189.5 | 4196.6 |
DeMark's | - | - | 4148.0 | 4165.2 | 4171.7 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2