เงินเฟ้อยุโรปยังคงน่ากังวล
อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเร่งตัวสูงขึ้นในเดือนเม.ย. แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ปรับตัวลดลง ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลงในการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ โดยอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วถ้านับจากปลายปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่ายังคงสูงอยู่
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 7.0% ในเดือนเม.ย. จาก 6.9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 7.3% ในเดือนเม.ย. ชะลอตัวจาก 7.5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ชะลอตัวสู่ 5.6% จาก 5.7% ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ 5.7% และเป็นการลดลงครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการเร่งตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5.2% จาก 5.1% แต่อัตราเงินเฟ้อสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่พลังงานชะลอตัวสู่ 6.2% จาก 6.6%
นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley กล่าวไว้ว่า “ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของอีซีบีจะขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ลดลงได้ยาก ซึ่งนั่นจะทำให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น”
นักลงทุนคาดว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของอีซีบีจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.75% ภายในปลายฤดูร้อนนี้ แม้การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยจะผันผวนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ตาม
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงกลางปีหน้า และเรียกร้องให้รมว.คลังในสหภาพยุโรปคุมเข้มนโยบายการคลัง ซึ่งจะเป็นการดำเนินการร่วมกันเพื่อทำให้จัดการอัตราเงินเฟ้อที่สูงลงได้
นายอัลเฟรด แคมเมอร์ หัวหน้าแผนกยุโรปของไอเอ็มเอฟกล่าวว่า เงินเฟ้อเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากที่สุด "คำแนะนำนโยบายหลักของเราก็คือการจัดการกับเงินเฟ้อ และนั่นหมายความว่า เราต้องใช้เครื่องมือนโยบายการเงิน สำหรับอีซีบี นั่นหมายถึงการคุมเข้มนโยบายให้นานขึ้น เราคาดการณ์ไว้ถึงกลางปีหน้าเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายในปี 2025 เงินเฟ้อเป็นภาษี โดยเฉพาะกับคนยากจน และนั่นจะต้องจัดการ"
เขากล่าวอีกว่า รมว.คลังในอียูต้องสนับสนุนอีซีบีด้วยการลดมาตรการกระตุ้นทางการคลังสำหรับเศรษฐกิจ ซึ่งพวกเขาได้ออกมาในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด และใช้ต่อไปในช่วงวิกฤติค่าครองชีพที่เกิดจากการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย
"เงินเฟ้อไม่สามารถจัดการได้ด้วยธนาคารกลางอย่างเดียว แต่คุณต้องมีนโยบายการคลังมาสนับสนุนด้วย" และเขาระบุว่า การปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศในอียูไม่ได้เกิดขึ้นจริง เนื่องจากรัฐบาลได้ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือประชาชนจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น"
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 0.9091, 0.9098, 0.9104
แนวรับสำคัญ: 0.9077, 0.9072, 0.9064
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 3 พฤษภาคม 2566 08:53 น. GMT+7
| ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
| Classic | 0.9064 | 0.9072 | 0.9077 | 0.9085 | 0.9091 | 0.9098 | 0.9104 |
| Fibonacci | 0.9072 | 0.9077 | 0.9080 | 0.9085 | 0.9090 | 0.9093 | 0.9098 |
| Camarilla | 0.9078 | 0.9079 | 0.9080 | 0.9085 | 0.9083 | 0.9084 | 0.9085 |
| Woodie's | 0.9062 | 0.9071 | 0.9075 | 0.9084 | 0.9089 | 0.9097 | 0.9102 |
| DeMark's | - | - | 0.9074 | 0.9083 | 0.9087 | - | - |
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.9072 - 0.9077 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.9077 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9098 และ SL ที่ประมาณ 0.9064 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.9091 - 0.9098 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9104 และ SL ที่ประมาณ 0.9072 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.9091 - 0.9098 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.9091 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9072 และ SL ที่ประมาณ 0.9104 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.9072 - 0.9077 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9064 และ SL ที่ประมาณ 0.9098 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 3 พฤษภาคม 2566 08:53 น. GMT+7
| ชื่อ | มูลค่า | Action |
| RSI(14) | 47.460 | ถือหุ้นไว้ |
| STOCH(9,6) | 51.677 | ถือหุ้นไว้ |
| STOCHRSI(14) | 11.690 | ขายมากเกินไป |
| MACD(12,26) | 0.000 | ซื้อ |
| ADX(14) | 24.481 | ขาย |
| Williams %R | -70.588 | ขาย |
| CCI(14) | -50.8228 | ขาย |
| ATR(14) | 0.0025 | ผันผวนน้อยลง |
| Highs/Lows(14) | 0.0000 | ถือหุ้นไว้ |
| Ultimate Oscillator | 47.565 | ขาย |
| ROC | 0.204 | ซื้อ |
| Bull/Bear Power(13) | -0.0018 | ขาย |
|
ซื้อ:2 ขาย:5 ถือหุ้นไว้:3 สรุป:ขาย |
||
