คุณเป็นนักลงทุนสไตล์ไหน? เชื่อว่าคำถามนี้ หลายคนอาจจะตอบไม่ได้ หรือไม่เคยหาคำตอบมาก่อน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสไตล์การลงทุนส่งผลต่อกลยุทธ์ได้เช่นกัน ซึ่งหากนักลงทุนทราบสไตล์ของตัวเองก็จะทำให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น ทีมงาน Fxtoday จึงจะมานำเสนอ เทคนิคการลงทุน 3 สไตล์ เลือกให้เหมาะกับตัวเอง
ทำไมต้องสำรวจสไตล์การลงทุนของตัวเองก่อนลงทุน?
สินทรัพย์แต่ละประเภทย่อมต้องใช้เงินในการลงทุน และถึงแม้ว่าเงินนั้นจะเป็นเงินเย็น แต่นักลงทุนก็ควรเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้สูญเสียเงินทั้งหมดไป ดังนั้น สิ่งแรกที่นักลงทุนควรทำก่อนตัดสินใจเปิดพอร์ตการลงทุน คือ การสำรวจสไตล์การลงทุนของตัวเอง
สไตล์การลงทุนแต่ละแบบล้วนส่งผลต่อกลยุทธ์ รวมถึงประเภทสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน ซึ่งหากนักลงทุนไม่เข้าใจในนิสัยและแนวทางของตัวเอง หรือเลือกสไตล์ที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองก็อาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดในการลงทุนได้ รวมทั้งยังทำให้นักลงทุนไม่สามารถหาจุดเด่นและไม่ทราบถึงความผิดพลาดของตัวเองก็เป็นได้ การสำรวจสไตล์การลงทุนของตัวเองจึงถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก ๆ ที่นักลงทุนทุกคนควรรู้
คุณรู้หรือไม่ว่า แม้แต่นักลงทุนระดับโลกหรือนักลงทุนที่มีอิทธิพลทางโซเชียลเองต่างก็มีสไตล์การลงทุนของตัวเองที่เด่นชัดเพื่อใช้เป็นหลักเอาไว้ยึดเหนี่ยวการลงทุน นั่นเป็นสาเหตุว่า ทำไมนักลงทุนถึงควรรู้จักตัวเองก่อนรู้จักสินทรัพย์ที่จะลงทุน
ปัจจัยที่ใช้ตัดสินใจว่าจะเลือกลงทุนแบบไหน
นักลงทุนจะทราบได้อย่างไรว่า ควรเลือกลงทุนแบบไหน? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่ทราบว่า ตัวเองเป็นนักลงทุนแบบไหน? เหมาะกับการลงทุนอะไร? ปัจจัยที่คุณควรใช้ประกอบการพิจารณา คือ
1) คุณมีเวลาเท่าไหร่?
ทุกกิจกรรมล้วนใช้เวลาในการศึกษาและดำเนินการ การลงทุนก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ประเภทใดก็ล้วนจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าจะมากหรือน้อย ดังนั้น คุณจึงจำเป็นต้องทราบว่า ตัวเองมีเวลาเท่าไหร่กันแน่? เพื่อให้ทราบถึงเวลาที่คุณสามารถจดจ่ออยู่กับมันได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นคนที่มีเวลาในการศึกษาและติดตามพอร์ตการลงทุนน้อยหน่อย สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ผันผวนน้อย และมีการกระจายความเสี่ยงอาจเหมาะกับคุณมากกว่า นั่นหมายความว่า คุณอาจจะเหมาะกับการเป็นนักลงทุนระยะยาว
ขณะเดียวกัน หากคุณเป็นนักลงทุนที่มีเวลามาก สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนปานกลางถึงสูงก็อาจตอบโจทย์คุณได้มากกว่าเช่นกัน นั่นหมายความว่า คุณอาจจะเหมาะกับการเป็นนักลงทุนระยะสั้น หรือนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไร เป็นต้น
2) ความสนใจในการลงทุนของคุณเป็นอย่างไร?
ความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนความสนใจก็ถือเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนเช่นกัน เพราะสินทรัพย์แต่ละประเภทล้วนมีปัจจัยและพื้นฐานความรู้ที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้การศึกษาหาความรู้ และการติดตามพอร์ตการลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ดี ปัจจัยข้างต้นนี้จะทำให้นักลงทุนทราบถึงแนวทางในการเลือกสินทรัพย์ ตลอดจนสไตล์การลงทุนเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น โปรดทราบว่า ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่นักลงทุนต้องใช้ประกอบการตัดสินใจด้วยเช่นกัน
เทคนิคการลงทุน 3 สไตล์
ดังที่ทราบกันแล้วว่า สไตล์การลงทุนจะส่งผลต่อกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับเทคนิคการลงทุน 3 สไตล์ รวมถึงสิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณเป็นนักลงทุนสไตล์นั้น ๆ เพื่อให้ทุกท่านได้เลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับตัวเอง ดังนี้
1. นักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
นักลงทุนประเภทนี้ จะเน้นหาสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ความคุ้มค่า เน้นมองภาพรวมระยะยาว จึงทำให้การลงทุนสไตล์นี้เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่มีความอดทนสูง จิตใจมั่นคง ไม่หวั่นไหวกับความผันผวนระยะสั้น เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้กินระยะเวลาหลายปี และบางครั้งอาจมากกว่า 10 ปี
สิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณเป็นนักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
- ศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์นั้น ๆ ทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและปัจจัยเชิงปริมาณ
- ติดตามและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูผลประกอบการและความเคลื่อนไหว
- ไม่ยึดติดมากจนเกินไป หากสินทรัพย์ดังกล่าวหลุดจากการควบคุม เมื่อถึงจุดที่ต้องขายก็ควรขาย อย่าเสี่ยงถือต่อไปเด็ดขาด
2. นักลงทุนแนวเทคนิค
นักลงทุนประเภทนี้จะให้ความสนใจในการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์มากเป็นพิเศษ ดังนั้น จึงต้องใช้เครื่องมือช่วย หรือ Indicator ในการวิเคราะห์กราฟราคา แนวโน้มการเคลื่อนที่ จังหวะการเข้า-ออก รวมถึงแนวรับและแนวต้าน เพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุดในการเข้าทำกำไร ดังนั้น การลงทุนสไตล์นี้จึงเหมาะกับนักลงทุนระยะสั้น เน้นเก็งกำไรจากการเคลื่อนที่ของราคาเป็นหลัก
สิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณเป็นนักลงทุนแนวเทคนิค
- ควรใช้เครื่องมือช่วยมากกว่า 1 ตัว ในการวิเคราะห์กราฟการเคลื่อนที่ของราคา เพื่อหาจังหวะหรือจุดที่ดีที่สุด
- หากใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์จุดต่าง ๆ ได้แล้ว ไม่ควรเลื่อนหรือขยับจุด เพราะอาจกระทบต่อผลตอบแทนที่จะได้รับ
- รู้จักตั้งคำสั่ง Stop Loss/Take Profit เพื่อปิดออเดอร์ และคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าอื่น ๆ เพื่อทำธุรกรรมในขณะที่ไม่ได้อยู่เฝ้าหน้าจอ
3. นักลงทุนแนวโมเมนตัม
นักลงทุนประเภทนี้จะลงทุนตามเทรนด์ขาขึ้นของตลาด หรือทิศทางเงินทุนไหลเข้าของต่างชาติ โดยใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจมาช่วยในการวิเคราะห์ ซึ่งบางครั้งกระแสโมเมนตัมก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ยึดติด และไม่นิยมถือยาว
สิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณเป็นนักลงทุนแนวโมเมนตัม
- มองภาพเศรษฐกิจโลกเป็นภาพการลงทุนใหญ่ จากนั้น วิเคราะห์ภาพที่เล็กลงมา คือ ระดับประเทศ
- รู้จักมองหาอุตสาหกรรมที่โดดเด่น หรือ Sector ที่คาดว่าจะเป็นกระแสในอนาคตอันใกล้
- คัดเลือกสินทรัพย์จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ด้วยการเปรียบเทียบปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ในหมวดเดียวกัน
ทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคการลงทุน 3 สไตล์ ที่มีรูปแบบและกลยุทธ์ให้เลือกใช้ประกอบการตัดสินใจแตกต่างกัน นักลงทุนทุกท่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ดี เทคนิคการลงทุนทั้ง 3 สไตล์นี้ ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้เช่นกัน ซึ่งหากคุณอยากลดความผิดพลาดที่เกิดจากการลงทุน ก็อาจศึกษาเทคนิคเหล่านี้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด สุดท้าย คือ อย่าลืมติดตามผลและปรับพอร์ตการลงทุนของคุณอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดี
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Technical Analysis