เทรดเดอร์ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการเทรดนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว เพราะต้องอาศัยการทำความเข้าใจและศึกษาตลาดให้ดี รวมไปถึงต้องมีกลยุทธ์ในการเทรดที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนหรือการเทรด นั่นก็คือ การวางแผนด้านการเงินครับ เพราะเราต้องบริหารเงินทุนให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และคุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้อาวุธสำคัญที่สุดสำหรับการเทรด นั่นก็คือ Mindset ของตัวคุณเอง และแนวทางการคิดที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด ก็คือ Growth Mindset นั่นเองครับ
Growth Mindset คืออะไร ?
Growth Mindset หมายความว่า คุณมีแนวความคิด ความสนใจในความท้าทาย และต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเอง จงอย่ามองว่า ความล้มเหลวคือตัวตนที่แท้จริงของคุณ แต่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเติบโตและพัฒนาความสามารถมากกว่าครับ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นแนวความคิดที่ยอมรับในข้อผิดพลาดและพร้อมพัฒนาอยู่เสมอ เพราะเชื่อมั่นว่า ตัวตนของคนเรานั้น สามารถฝึกฝนพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปได้ การมีแนวคิดแบบ Growth Mindset ไม่ได้แปลว่า คุณจะไม่ผิดพลาดหรือกลัวความผิดพลาด แต่พร้อมจะยอมรับและมองว่า นั่นคือหนึ่งในบทเรียนที่จะทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
Growth Mindset เหมาะกับการลงทุนอย่างไร ?
Growth Mindset นับว่าเป็นแนวความคิดที่เหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน สามารถนำมาปรับใช้กับการลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้เรารู้จักพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และยอมรับในข้อผิดพลาดของตนเอง ซึ่งอาจจะเป็นในเรื่องของการบริหารเงิน, กลยุทธ์ที่ผิดพลาดบ้างในบางครั้งหรือการตั้ง TP และ SL ที่ไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดการขาดทุนหรือพลาดจุดที่ดีที่สุดในการทำกำไรไป
เมื่อเรามีแนวคิดแบบ Growth Mindset ก็จะทำให้มีสมาธิและมีความเข้าใจในการลงทุนมากขึ้นนั่นเองครับ เพราะเมื่อเกิดข้อผิดพลาด แต่เรารู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหน ข้อผิดพลาดนั้นก็จะกลายเป็นบทเรียนให้เราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ จากการวิจัยพบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มีแนวคิดแบบ Growth Mindset อีกด้วยครับ คราวนี้มาดูกันบ้างดีกว่าว่าแนวคิดและพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่จะช่วยให้ก้าวเข้าสู่ความสำเร็จได้ไวขึ้น
1. เชื่อมั่นว่าเราทำได้
อันดับแรกของการที่จะประสบความสำเร็จได้ นั่นก็คือ คุณต้องเชื่อว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จได้เสียก่อน เพราะหากเราตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจน แต่ยังมีความลังเลและไม่เชื่อมั่นในตัวเองจะยิ่งส่งผลในด้านลบต่อระบบความคิดและการตัดสินใจของเรา ดังนั้น การให้กำลังใจตนเองและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ตนเองว่าสามารถทำได้จะยิ่งส่งผลในทางบวกได้ดียิ่งขึ้นครับ เพราะการชนะใจตนเองและให้กำลังใจตนเองก็เป็นส่วนสำคัญมากเช่นกัน เมื่อเรามีความมั่นใจก็จะนำพาตัวเราเองไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ถ้าหากว่าเราไม่เชื่อในตัวเองเสียก่อน แล้วใครจะเชื่อในตัวเรา ถูกไหมล่ะครับ?
2. ตั้งเป้าหมายตัวเลขที่เราต้องการอย่างชัดเจน
อย่างต่อมา คือ ควรมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายตัวเลขหรือกำไรที่เราต้องการอย่างชัดเจน อาจจะมีการกำหนดระยะเวลาเพิ่มเข้ามาด้วยสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทาย แต่ถ้าหากว่าใครที่ไม่อยากกดดันตัวเองมากจนเกินไป แค่กำหนดกำไรที่เราต้องการก็เพียงพอแล้วครับ โดยสามารถกำหนดได้ตามความเหมาะสมหรือที่เห็นว่าเหมาะกับเรา ซึ่งอาจจะเป็นกำไรรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปีก็ได้เช่นกัน การกำหนดหรือตั้งเป้าหมายที่เราต้องการ จะทำให้เราเห็นความก้าวหน้าของตัวเราเองทีละนิด เมื่อเราเห็นว่า ตัวเราเองสามารถสร้างกำไรได้ และสามารถขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่กำหนดได้ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีครับ เพราะความก้าวหน้า 0.1 เปอร์เซ็นต์นั้น ก็ยังดีกว่าการไม่ก้าวหน้าเลย
3. เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์
หลายตำราอาจระบุไว้ว่า การค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่อีกหนึ่งอย่างที่อยากจะแนะนำ นั่นคือ การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของผู้อื่นครับ โดยการสอบถามหรือปรึกษากับผู้มีความรู้ มีประสบการณ์มาก่อนเรานั่นเอง เพราะการเรียนรู้จากผู้อื่น จะช่วยให้เราเปิดโลกและเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในแบบที่เราอาจคาดไม่ถึง แถมยังเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางแผนการลงทุนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย อย่างที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่าการที่เราขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อาจจะใช้ระยะเวลานาน หากเราเลือกที่จะเรียนรู้ผ่านผู้มีประสบการณ์ ก็อาจทำให้เราก้าวสู่ความสำเร็จได้ไวยิ่งขึ้นครับ
4. คำนวณเงินทุนอยู่เสมอ
พฤติกรรมอีกหนึ่งข้อที่อยากแนะนำ นั่นก็คือ หมั่นคำนวณเงินทุนและคอยเช็คว่า เงินเรายังเหลืออยู่เท่าไหร่ครับ เพราะจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น สามารถคำนวณได้ว่า รับความเสี่ยงได้อีกกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินทั้งหมด เมื่อเรารู้จักคำนวณเงินทุนแล้ว จะยิ่งช่วยให้เรามีการจัดระบบระเบียบในการลงทุนได้มากขึ้นอีกด้วย ข้อดีของการหมั่นตรวจเช็คเงินทุนอีกหนึ่งข้อ ก็คือ ช่วยให้เราแบ่งเงินในการลงทุนได้ด้วยครับ เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่ได้อยากลงทุนในสินทรัพย์ชนิดเดียวหรือลงทุนในตลาดเดียวก็ได้ เมื่อเราคำนวณเงินทุนแล้วว่า เหลือเท่าไหร่ และมากพอที่จะลงทุนมากน้อยแค่ไหน ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและบริหารความเสี่ยงได้
5. ผิดพลาดคือบทเรียน
เพราะสิ่งสำคัญของ Growth Mindset คือ การรู้จักตนเอง น้อมรับตนเอง และพร้อมที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่มีนักลงทุนหรือเศรษฐีระดับแนวหน้าหรือระดับตำนานท่านไหนที่จะไม่เคยลงทุนหรือตัดสินใจผิดพลาดเลย แต่พวกเขารู้วิธีรับมือและรู้จักปรับตัวเรียนรู้จากข้อผิดพลาดทั้งหมดที่เคยเผชิญมาทั้งหมดต่างหาก ดังนั้น อย่ากลัวที่จะทำอะไรผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการออกออเดอร์ผิด หรือวางกลยุทธ์ผิดทางไปบ้าง ให้คิดเสียว่าเป็นการผิดพลาดเพื่อการเรียนรู้ ไม่ควรจมอยู่กับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ต้องนำข้อผิดพลาดนั้นมาวิเคราะห์ดูว่า เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากเหตุการณ์นั้น ๆ และสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างไรในอนาคต
การนำแนวคิดแบบ Growth Mindset ไปปรับใช้กับการลงทุนนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียวครับ และยังสามารถนำไปปรับใช้กับทุกเรื่องในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย เพราะแนวคิดแบบนี้สามารถทำให้เราทำความเข้าใจในแต่ละสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดพิจารณาว่า จะรับมือกับมันอย่างไร ไม่จมปลักหรือยอมแพ้ไปเสียก่อนนั่นเอง หวังว่าบทความนี้ของ FXtoday จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนหรือผู้อ่านที่มีความสนใจในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า ขอบคุณครับ
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Technical Analysis