คุณรู้หรือไม่ว่าตลาดทุนนั้นสามารถใช้ในการคาดเดาการเคลื่อนไหวของทิศทางราคาค่าเงินได้ ซึ่งคุณเองก็สามารถใช้ดัชนีตลาดทุนมาคาดคะเนได้แน่นอนเช่นกัน เนื่องจากสิ่งที่คุณเห็นในทีวีหรือในวิทยุและหนังสือพิมพ์นั้น ซึ่งเหมือนจะครอบคลุมไปทั้งตลาดการเงินอยู่แล้ว มันอาจจะน่าตื่นเต้นที่คุณจะซื้อบริษัทที่ผลิตสิ่งที่คุณเองใช้ในชีวิตประจำวัน โดยสิ่งหนึ่งที่คุณต้องระลึกอยู่เสมอคือการซื้อหุ้นจากประเทศประเทศหนึ่ง ซึ่งคุณต้องใช้เงินประเทศนั้น การที่คุณจะลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น นักลงทุนยุโรปคนหนึ่งต้องแลกเงินยูโรเป็นเงินเยนก่อน ทำให้อุปสงค์ของเงินเยนเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง ค่าเงินยูโรจะถูกขายซึ่งทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง เมื่อตลาดหุ้นภาพรวมกำลังดีขึ้น เงินจะไหลเข้าและกลับกันเมื่อตลาดหุ้นกำลังย่ำแย่ นักลงทุนก็จะย้ายเงินของพวกเขาไปแหล่งที่ให้ผลตอบแทนดีกว่านั่นเอง

แม้ว่าคุณจะไม่ได้เทรดหุ้นในฐานะนักเทรด Forex คุณก็ควรจะสนใจความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นในประเทศที่มีค่าเงินหลักอื่นๆด้วย ถ้าตลาดหุ้นประเทศหนึ่งเริ่มมีผลประกอบการที่ดีกว่าประเทศหนึ่ง คุณก็ควรจะเตรียมไว้ว่าเงินกำลังจากเคลื่อนย้ายจากประเทศที่ตลาดหุ้นอ่อนแอกว่าไปยังตลาดที่เข้มแข็งกว่า นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นในประเทศที่ตลาดหุ้นแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ค่าเงินของประเทศที่ตลาดหุ้นอ่อนแอก็จะอ่อนค่าเช่นเดียวกัน สรุปก็คือตลาดหุ้นขาขึ้น ค่าเงินแข็งค่าขึ้น ตลาดหุ้นขาลงค่าเงินอ่อนค่าลง ถ้าหากคุณซื้อค่าเงินจากประเทศที่มีตลาดหุ้นแข็งแกร่งและขายค่าเงินประเทศที่มีตลาดหุ้นขาลงคุณก็จะสามารถทำกำไรได้นั่นเอง คุณอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับตลาดหุ้นประเทศต่างๆ

บทความนี้จึงนำดัชนีหุ้นหลากหลายมาให้คุณได้ศึกษาและทำความเข้าใจ ซึ่งมีดังต่อไปนี้

- Dow ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average (or Dow for short) เป็นตลาดทุนชั้นนำในสหรัฐฯ ซึ่งมีบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ 30 บริษัท แม้ว่าชื่อจะไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ว่าเป็นบริษัทที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ซึ่งนักลงทุนจะจับตามองตลาดนี้อย่างใกล้ชิด เพราะมันสามารถบอกอารมณ์ตลาดได้ดี ซึ่งอาจทำให้มันกระทบกับเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ และรวมถึงเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆด้วย

- S&P500 ดัชนีStandard & Poor 500 หรือ S&P500 เป็นดัชนีของหุ้นขนาดใหญ่ของบริษัทอเมริกันถึง 500 บริษัท ซึ่งเป็นเหมือนตัวชีวัดเศรษฐกิจของอเมริกาว่าจะไปในทิศทางไหน หลังจากที่ดัชนี Dow jones เป็นดัชนีที่มีการเทรดมากที่สุดในสหรัฐฯกองทุนหลายๆแห่งก็สนใจในดัชนี S&P500 นี้ ปริมาณเงินลงทุนหลายพันพันล้านดอลลาร์ที่ไหลเข้าออกตลาดนี้

- NASDAQ ดัชนี NASDAQ หรือชื่อเต็มคือ National Association of Securities Dealers Automated Quotations ซึ่งเป็นตลาดหุ้นอีเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีบริษัทที่ให้เทรดมากกว่า 3700 บริษัท ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในโลกด้วย

- Nikkei ดัชนี Nikkei ก็คล้ายกับดัชนี Dow Jones Industrial Average คือเป็นตลาดที่มีหุ้นที่มีการเทรดสูงที่สุดของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นญี่ปุ่นถึง 225 บริษัท

- Dax ดัชนี DAX เป็นชื่อย่อของ Deutscher Aktien Index คือดัชนีตลาดหุ้นของ หุ้นที่มีมาร์เก็ตแค็ปขนาดใหญ่ที่สุด 30 บริษัทที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้นแฟรงค์ เฟิร์ท และเยอรมันเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในภาคพื้นยุโรป ซึ่งดัชนี DAX น่าติดตามมากที่สุดในโซนยุโรป บริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นนี้คือ Adidas, BMW และDeutsche Bank

- DJ EURO STOXX 50 ดัชนี Dow Jones Euro Stoxx 50 เป็นดัชนีหุ้นชั้นนำของโซนยุโรปซึ่งมาจาก 12 ประเทศ ดัชนีนี้มาจาก Stoxx Ltd ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Deutsche Boerse AG, Dow Jones & Company และ SIX Swiss Exchange

- FTSE THE FTSE (อ่านว่า “Footsie”) เป็นดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทที่มีขนาดการเทรดสูงสุดในตลาดหุ้นอังกฤษใน London Stock Exchange มีดัชนีหลายแบบเช่นกันคือ FTSE 100 or FTSE 250 ขึ้นอยู่กับจำนวนของบริษัทที่อยู่ในแต่ละดัชนี

- Hang Seng ดัชนี Hang Seng เป็นตลาดหุ้นในฮ่องกง ซึ่งคิดจากการเคลื่อนไหวเฉลี่ยของหุ้นทุกตัวในตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีนี้มีบริษัท HSI Services Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Hang Seng Bank นั่นเอง