ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมานี้มีข่าวรอการประกาศผลเลือกตั้งของจอร์เจียออกมา โดยหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร และเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐภายใต้รัฐบาลของนายไบเดน หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของปธน.ทรัมป์ แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้พรรคเดโมแครตสามารถผลักดันมาตรการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ง่ายขึ้น และจะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
ทั้งนี้ นายไบเดนมีนโยบายเพิ่มภาษีคนรวยเพื่อช่วยคนจน โดยเขาจะยกเลิกมาตรการปรับลดอัตราภาษีของปธน.ทรัมป์ ด้วยการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 28% จากเดิมที่ปธน.ทรัมป์ปรับลดจาก 35% สู่ระดับ 21% ในปัจจุบัน นอกจากนี้ นายไบเดนจะปรับเพิ่มภาษีของครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี โดยมีการคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น 4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลา 10 ปี ขณะที่นายไบเดนจะเพิ่มการลดหย่อนภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และให้เงินอุดหนุนภาษีสำหรับการเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น
ขณะนี้ นางเคลลี ลอฟเฟลอร์ และนายเดวิด เพอร์ดิว จากพรรครีพับลิกัน ครองตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจีย ซึ่งหากทั้งสองสามารถรักษาเก้าอี้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะทำให้พรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาต่อไป ด้วยคะแนนเสียง 52 ต่อ 48 เสียง
อย่างไรก็ดี ถ้าหากนางลอฟเฟลอร์ และนายเพอร์ดิว พ่ายแพ้ให้แก่นายราฟาเอล วอร์นอค และนายโจน ออสซอฟฟ์ ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ทางพรรคเดโมแครตก็จะสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีคะแนนเสียง 50 ต่อ 50 เสียง รวมกับอีก 1 เสียงจากนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเสียงดังกล่าวในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เพื่อชี้ขาดในกรณีที่วุฒิสมาชิกลงคะแนนเสียงเท่ากันในญัตติใดญัตติหนึ่ง
พรรคเดโมแครตมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจียในวันนี้ หลังจากที่นายไบเดนสามารถชนะการเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยทำลายสถิติการผูกขาดชัยชนะของพรรครีพับลิกันเป็นเวลาหลายสมัยคิดเป็นเวลาถึง 20 ปี สำหรับในครั้งถัดไปทาง Fxtoday จะมีเกร็ดความรู้อะไรมาฝากท่านผู้อ่านอีกอย่าลืมติดตามได้ที่เว็บไซต์ของ fxtoday นะครับ