สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐมีแผนปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายสำหรับโครงการด้านเศรษฐกิจระยะยาว โดยจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 21% เป็น 28% และปรับขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 4 แสนดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของปธน.ไบเดนนั้น อยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่ง ประธานาธิบดีไบเดนได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐอาจต้องปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากผู้ที่มีรายได้สูงเพื่อรองรับการใช้จ่ายดังกล่าว
ทั้งนี้ หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจปรับขึ้นภาษีจริง ก็จะนับเป็นการปรับขึ้นภาษีส่วนกลางครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี หลังจากที่เคยมีการปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในปี 2536 ในสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน