คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ในวันนี้ นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 แม้มีการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
ขณะเดียวกัน เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์
แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน จนกว่าจะมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และการมีเสถียรภาพด้านราคา ทั้งนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2564 และ 2565 สู่ระดับ 6.5% และ 3.3% ตามลำดับ ขณะที่ปรับลดการขยายตัวของปี 2566 สู่ระดับ 2.2% และเฟดได้คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวในระยะยาวที่ระดับ 1.8%
เฟดยังได้คงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2564-66 อยู่ที่ระดับ 0.13% ทั้ง 3 ปี และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวที่ระดับ 2.5% ขณะเดียวกัน เฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2564-66 สู่ระดับ 2.4%, 2.0% และ 2.1% ตามลำดับ และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.0% นอกจากนี้ เฟดปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2564-66 สู่ระดับ 4.5%, 3.9% และ 3.5% ตามลำดับ และปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในระยะยาวสู่ระดับ 4.0%