สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคารที่ 6 เม.ย. ปรับตัวขึ้น 68 เซนต์ เหตุนักลงทุนขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ ปิดที่ 59.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 62.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
การซื้อขายได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ พุ่งขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 647,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน ลดลงสู่ระดับ 6.0% ในเดือนมี.ค. จาก 6.2% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 59.0 โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นในเดือนมี.ค.
อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงมีปัจจัยกดดันจากการที่บางประเทศยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น อินเดียและประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยนักลงทุนจับตาดูแนวโน้มในการที่ประเทศเหล่านี้จะใช้มาตรการคุมการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด