"โจ ไบเดน" มีนโยบายลดหย่อนภาษีให้ผู้ประกอบการ อนุญาตลูกจ้างลาหยุดฉีดวัคซีนโควิด-19 หวังดึงเอกชนมีส่วนร่วมโครงการฉีดวัคซีนของรัฐ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐประกาศลดหย่อนภาษีให้ผู้ประกอบการบางรายที่อนุญาตให้พนักงานลาหยุดเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้โดยยังได้รับค่าจ้าง เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการในสหรัฐเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนแผนระดมฉีดวัคซีนมากขึ้น
“ผมขอให้นายจ้างทุกๆ ราย ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือเล็กและไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่รัฐใด อนุญาตให้พนักงานลาหยุดโดยยังได้รับค่าจ้างเพื่อให้พวกเขาสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้” ปธน.ไบเดนกล่าว
ปธน.ไบเดนระบุว่า การลดหย่อนภาษีนี้จะมอบให้กับผู้ประกอบการที่มีพนักงานน้อยกว่า 500 ราย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐมีแผนลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการที่อนุญาตให้พนักงานลาหยุดเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนหรือเพื่อฟื้นตัวจากผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด-19 โดยยังได้รับค่าจ้าง เป็นระยะเวลาสูงสุดรวม 80 ชั่วโมง และเป็นจำนวนเงินสูงสุด 511 ดอลลาร์ต่อวันสำหรับพนักงานแต่ละคนไปจนถึงเดือน ก.ย.
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่มีพนักงานน้อยกว่า 500 รายนั้น นับเป็นสัดส่วนราว 50% ของภาคเอกชนของสหรัฐ โดยการลดหย่อนภาษีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเสนอโดยพรรคเดโมแครต โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและมีปธน.ไบเดนลงนามรับรองแล้ว นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังกล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า เขาคาดว่าหน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐจะสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ 200 ล้านโดสภายใน 100 วันตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ถึงแม้จะมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐก็ตาม ปธน.ไบเดนระบุว่า แผนระดมฉีดวัคซีนได้เข้าสู่ระยะต่อไปแล้ว หลังอนุญาตให้ประชาชนที่อายุมากกว่า 16 ปีทุกคนสามารถเข้ารับวัคซีนได้ และปธน.ไบเดนยังเปิดเผยด้วยว่า ประชาชนในกลุ่มผู้สูงอายุ 80% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุชาวอเมริกันลดลงอย่างมาก
