ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 61.92 จุดหรือ0.18%ปิดที่ 33,981.57 จุดดัชนีเอสแอนด์พี500เพิ่มขึ้น 7.45 จุดหรือ0.18%ปิดที่ 4,187.62 จุดและดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 121.97 จุดหรือ0.87%ปิดที่ 14,138.78 จุด
นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยบริษัท 1 ใน 3 ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 จะประกาศผลประกอบการในไตรมาส 1 รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ บริษัทแอ๊ปเปิ้ล, ไมโครซอฟท์, อเมซอน และอัลฟาเบท
ขณะนี้ บริษัท 25% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 แล้ว โดยมีจำนวน 84% ที่รายงานตัวเลขกำไรเป็นบวก ขณะที่ 77% รายงานรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดวันจันทร์ที่ 26เม.ย. ปรับตัวร่วงลงในกรอบแคบ 61 จุดขณะนักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนเผยผลประกอบการคึกคักในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. หลังจากลดลง 0.8% ในเดือนก.พ.
อย่างไรก็ดี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมี.ค.