คืนนี้ที่ปรึกษา RBC แนะนำ Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ให้เปิดบริการให้ลูกค้าซื้อขาย Cryptocurrency ผ่าน iPhone ได้ เพราะจะสามารถสร้างรายได้แบบฟรีๆเพิ่มให้ Apple ได้สูงถึงปีละ 1.2 ล้านล้านบาท
คืนนี้ Apple เพิ่ง ประกาศโชว์พลังครั้งใหญ่ โดยการสัญญาว่าจะทุ่มเงินลงทุนทั้งหมด 4.3 แสนล้านเหรียญ (13 ล้านล้านบาท) ภายในเวลาเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาสินค้าและธุรกิจของตัวเอง นอกจากนั้นยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้เติบโตมากกว่านี้ โดยการสร้างงานเพิ่มกว่า 2 หมื่นตำแหน่งและพัฒนาระบบ 5G ให้ทั่วอเมริกา พร้อมกับการสร้างธุรกิจใหม่อีกมากมาย
ถึงแม้จะเป็นประกาศที่ยิ่งใหญ่มากๆ แต่.... ต่อจากนี้ไปไม่นาน นี่อาจจะไม่ใช่ข่าวที่ใหญ่ที่สุดของคืนนี้ก็ได้ เมื่อทาง RBC Capital Markets วานิชธนกิจหรือที่ปรึกษาทางการเงินชื่อดังจากแคนาดาได้ยื่นคำแนะนำให้ Apple หันมาลงทุนและขยายธุรกิจใน Cryptocurrency
RBC Capital Markets ได้ทำการศึกษามาเสนอทาง Apple และ Tim Cook โดยสรุปได้ดังนี้
1️. ธุรกิจการซื้อขาย Cryptocurrency กำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และความต้องการก็สูงขึ้นเรื่อยๆ (ดูได้จากการโตของบริษัทกระดานเทรดคริปโตต่างๆ หรือจากมูลค่าของบริษัท Coinbase ที่เพิ่งเข้าตลาดสหรัฐไปก็กลายเป็นบริษัทกระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที)
2️. ทาง Apple มีความได้เปรียบทางการแข่งขันในธุรกิจนี้อย่างเห็นได้ชัด #เหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆอยู่เยอะมาก เพราะทาง Apple มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือมี iPhone กว่าพันล้านเครื่องอยู่ในมือของลูกค้าทุกคนอยู่แล้ว
3️. จากการศึกษา ทุกวันนี้บริษัท Square ของ Jack Dorsey ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อขาย Cryptocurrency ผ่านแอปกันได้แล้ว กำลังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากว่า 6 พันล้านเหรียญต่อปี (เกือบ 2 แสนล้านบาท) ทั้งที่ Square มีลูกค้าอยู่เพียง 30 ล้านคนเท่านั้น
4️. ทุกวันนี้ Apple มีลูกค้าที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์หรือ App Store ได้ 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ! ต่อให้มีลูกค้าใช้บริการซื้อขาย Cryptocurrency เพียงแค่ 10% หรือเพียง 150 ล้านคนทั่วโลก ทาง Apple ก็จะสามารถสร้างรายได้ ได้มากถึง x5 เท่าของ Square หรือกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี
5️. RBC ยังเสริมอีกว่า #มันไม่มีทางเลยที่รัฐบาลสหรัฐจะแบนบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency ต่างๆ เพราะทุกวันนี้คนสหรัฐเป็นเจ้าของ Bitcoin เป็นสัดส่วนมากที่สุดในโลก บริษัทและกองทุนสหรัฐต่างก็เข้าไปถือ Bitcoin เพิ่มเป็นสินทรัพย์กันแล้ว
6️. ทำให้ทาง RBC กลับเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐจะหาทางมาสนับสนุนการใช้ Bitcoin ในอนาคตอีกด้วยซ้ำ หากสามารถหาแนวทางมาควบคุมมันได้แล้ว แต่ในเรื่องการแบนคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้
7️. หากทาง RBC ได้ยินรายงานคืนนี้ว่าทาง JP Morgan เพิ่งประกาศว่าจะเปิดกองทุน Bitcoin ให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้โดยตรงแล้ว และเท่ากับว่า JP Morgan เปิดและยอมรับให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์นึงของโลกไปแล้ว ทาง RBC ก็คงจะยิ่งมั่นใจในคำแนะนำต่อ Apple มากกว่านี้อีก จากรายงานครั้งนี้เราจะเห็นได้แล้วว่ากุญแจสำคัญต่อไปของ Bitcoin ว่าจะเป็นที่ยอมรับในวงกว้างขึ้นหรือไม่ "ตอนนี้อยู่ในมือของ Tim Cook แล้ว"
หาก Tim Cook ตัดสินใจไม่ทำ ส่วนแบ่งตลาดก็จะตกไปอยู่ในมือของแอปอื่นๆในโทรศัพท์อย่าง Square, Paypal หรือ Venmo ที่เพิ่งเปิดบริการให้ลูกค้ากว่า 70 ล้านคนสามารถซื้อขาย Bitcoin และ Cryptocurrency ได้ผ่านแอปของเขาแล้ว
เราคงต้องมาดูว่า Tim Cook จะยอมปล่อยให้เงินฟรีๆเหล่านี้หลุดลอยไปจากมืออีกนานแค่ๆไหนกันครับ