ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคารที่ 4พ.ค. ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 19.8 จุด โดยภาวะการซื้อขายเป็นไปในลักษณะหมุนเวียนกลุ่มลงทุน (sector rotation) จากการที่นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นเติบโต (growth stocks) เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ยังคงเข้าซื้อหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 19.8 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 34,133.03 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 28 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 4,164.66 จุด และดัชนีแนสแด็กปรับตัวลง 261.62 จุดหรือ 1.88% ปิดที่ 13,633.50 จุด
หุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มวัสดุ ปรับตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นเติบโต อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ปรับตัวลง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตัวใหญ่ๆ ต่างปรับตัวลง โดยหุ้นไมโครซอฟต์ปรับตัวลดลง 0.65% หุ้นอัลฟาเบทปรับตัวลดลง 1.41% หุ้นแอ๊ปเปิ้ลปรับตัวลดลง 2.33% หุ้นอเมซอนปรับตัวลดลง 0.93% และหุ้นเฟซบุ๊คปรับตัวลดลง 1.25%
นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า นักลงทุนเริ่มมีความระมัดระวังในการลงทุนกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่ผ่านมาได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหันไปลงทุนกับหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงานแทน