เช้านี้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น สิ้นสุดสัปดาห์ด้วยระดับราคาปิดสูงสุดในรอบกว่าสองปี มุมมองในแง่บวกจากความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น แม้ว่าตลาดจะยังกังวลเกี่ยวกับอุปทานของอิหร่านที่อาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น 69.48 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:07 น. ET (2:07 น. GMT) โดยพยายามไต่ขึ้นแตะระดับ 70 ดอลลาร์ ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.54% เป็น 67.21 ดอลลาร์ หลังจากแตะราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018
โครงการฉีดวัคซีนโควิดที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา ทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นก่อนฤดูการขับขี่ในช่วงหน้าร้อนจะเริ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ทั้ง American Petroleum Institute และ US Energy Information Administration ได้รายงานเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลงในช่วงต้นสัปดาห์
ราคาน้ำมันดูท่าว่าจะปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันในเดือนพฤษภาคม จากแนวโน้มความต้องการน้ำมันยังคงสดใส เนื่องจากบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีนยังคงฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จำนวน ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดใหม่ที่ 406,000 ราย ตามรายงานที่เปิดเผยเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งภาวะฉุกเฉินที่ครอบคลุมโตเกียวและเมืองสำคัญอื่น ๆ จะขยายออกไปจนถึงวันที่ 20 มิ.ย.
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจอื่น ๆ ของโลก ซึ่งเกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ในกรุงเวียนนา หากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 และสหรัฐฯยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร คาดว่าอิหร่านจะเพิ่มอุปทานน้ำมันประมาณ 500,000 บาร์เรลต่อวัน และ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันสำหรับน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวเข้าสู่ตลาด
การเพิ่มขึ้นของอุปทานจากอิหร่านจะเกิดขึ้นในระหว่างที่องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) คาดว่าจะลดการส่งออกน้ำมัน
รัฐมนตรีขององค์การฯ จะประชุมกันในวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งคาดว่าพวกเขามีแผนการจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 840,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระยะที่สามและระยะสุดท้ายของแผนการที่จะฟื้นฟูการผลิตทั่วโลกประมาณ 2 ล้านบาร์เรลในช่วงฤดูร้อน