หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวลงตามสหรัฐ หลังนักลงทุนรับทราบ การตัดสินใจเชิงนโยบายล่าสุดของเฟด ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะซื้อสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่คาดการณ์ไว้

ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 1.14% เมื่อเวลา 22:11 น. ET (2:11 น. GMT) และในเกาหลีใต้ ดัชนี KOSPI ลดลง 0.75%

ในออสเตรเลีย ดัชนี ASX 200 ลดลง 0.30% ข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ดีกว่าที่คาดไว้ โดยมี การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงาน ที่ 115,200 ตำแหน่ง ขณะที่ อัตราการว่างงาน ลดลงมาอยู่ที่ 5.1%

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 0.05%

ดัชนี Shanghai Composite ของจีนลดลง 0.21% ในขณะที่ ดัชนี Shenzhen Component เพิ่มขึ้น 0.63% ข้อมูลเศรษฐกิจจีนระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.8% เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ อัตราการว่างงาน อยู่ที่ 5.2% 

SET ไทยถูกปัจจัยดังกล่าวกดดันด้วยเช่นกัน โดยเปิดตลาดลดลง 3.07 จุดที่ 1,621.41 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นแปดจุดพื้นฐาน ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุห้าปีและเจ็ดปีเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น ขณะที่นักลงทุนเริ่มเห็นทิศทางขาขึ้นของอัตราผลตอบแทน

สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย นำโดยเงินวอนของเกาหลีใต้ ร่วงลงหลังจาก ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี ส่วนราคาน้ำมันดิบร่วงลงสวนทางค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นทำให้นักลงทุนสนใจสินค้าโภคภัณฑ์น้อยลง ในขณะที่ ราคาทองคำ ก็ร่วงลงเช่นกัน

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ช่วยขจัดความเสี่ยงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากผลการตัดสินใจของเฟด เขาเสริมว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มหารือเกี่ยวกับการลดสัดส่วนสินทรัพย์และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี 2023

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพาวเวลล์จะช่วยลดปฏิกิริยาต่อการปรับปรุงแนวทางดอทพล็อต (Dot Plot) โดยย้ำว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้และจะดำเนินการซื้อพันธบัตรต่อไปที่อัตรา 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน จนกว่าจะมี "ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ" เกี่ยวกับการจ้างงานและภาวะเงินเฟ้อ

นักลงทุนซึ่งหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะให้เบาะแสว่า เมื่อใดที่เฟดจะเริ่มลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ยังรู้สึกประหลาดใจในกำหนดการที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

“การเปลี่ยนแปลง Dot Plot ทำให้เกิดความกังวลว่า แม้ตอนนี้เฟดจะยังเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ แต่กำหนดการที่รัดกุมขึ้นอาจเดินหน้าต่อไป เรามาถึงจุดที่ทุกคนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจจากสมมติฐานที่ว่า เฟดสามารถรอคอยได้นานเท่าที่พวกเขาต้องการ” มิเชลล์ จิราร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐกล่าวกับ Bloomberg

หลังการตัดสินใจของเฟดสิ้นสุดลง ตอนนี้นักลงทุนก็เฝ้ารอการตัดสินใจจาก ธนาคารแห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และ ธนาคารแห่งประเทศนอร์เวย์ ในวันนี้ รวมถึงการตัดสินใจของ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ในวันพรุ่งนี้

ในขณะเดียวกัน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ มีกำหนดการปราศรัยเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลกลางต่อหน้าคณะผู้แทนของสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ด้วยเช่นกัน