.

โดยหลังจากที่ เจมส์ บลูลาร์ด กล่าวไว้ในวันศุกร์ทำให้ดัชนีดอลลาร์ปิดแข็งค่าขึ้น 0.46% แตะระดับสูงสุดที่ 92.405 สูงสุดตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.  ปิดรายสัปดาห์ด้วยการแข็งค่าขึ้น 2% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 14 เดือน  และในวันเดียวกัน  Eurodollar Futures ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในตลาด  บ่งชี้ว่าตลาดเห็นถึงโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนธ.ค. 2022  และมีโอกาส 100% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในปี 2023

.

ภาพรวมตลาดหุ้นอเมริกาในสัปดามี่ผ่านมายังคงปิดลบในวันศุกร์ ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 533.37 จุด หรือ -1.58%, ดัชนี S&P500 ปิด-1.31% และดัชนี Nasdaq ปิด -0.92% และร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2020 และในเช้าวันจันทร์ตลาดหุ้นเอเชียก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน Nikkei ของญี่ปุ่นลดลง 3.3% และลดลงต่ำกว่า 28, 000 เป็นครั้งแรกในรอบเดือนในขณะที่ดัชนีหุ้น MSCI ที่ใหญ่ที่สุดของหุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกประเทศญี่ปุ่นลดลง 1% ในการซื้อขายช่วงแรก

.

คู่เงินหลักคู่ตรงข้ามเงินดอลลาร์อย่าง เงินยูโร  ยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ตลาดมีแนวโน้มอยู่ในฝั่งขาลงของการซื้อขายในช่วงตลาดเองเชียของเช้า อย่างไรก็ตามวันนี้เวลา 21.15 จะมีการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นาง Lagarde หลังจากการตัดสินใจนโยบายล่าสุดของธนาคารกลาง ซึ่ง ECB กล่าวในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ว่าคาดว่าจะเพิ่มการซื้อพันธบัตร "อย่างมีนัยสำคัญ" ในไตรมาสหน้า หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นในภูมิภาค 

.

ในระยะสั้น EUR/USD อาจร่วงลงมากกว่านี้เนื่องจากนักลุงทุนที่เปลี่ยนจากสถานะ short เป็น long ในวันศุกร์ต้องถูกบังคับให้ปิดสถานะ long เหล่านั้น เนื่องจากตลาดสรุปว่า Fed จะกระชับนโยบายการเงินได้เร็วกว่า ECB ในรอบนี้อย่างแน่นอน ปัจจัยนี้ทำให้แนวโน้มของ EUR/USD เปลี่ยนทิศทางไปโดยสิ้นเชิงและแนวโน้มใหม่ที่ต่ำกว่านั้นก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว