Nasdaq อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์คำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยได้ระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้างและครอบคลุม และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป
.
"ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดจำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเรามองว่าการดีดตัวของเงินเฟ้อเป็นผลกระทบโดยตรงที่เกิดจากการเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐ เราจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควรเพียงเพราะความกังวลเรื่องเงินเฟ้อเพียงปัจจัยเดียว แต่เราจะรอให้มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากเงินเฟ้อหรือภาวะไร้สมดุลในด้านอื่นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย" นายพาวเวลกล่าว
.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงในวันอังคารสู่ระดับ 1.463% หลังนายพาวเวลล์ ประธานเฟดย้ำกับสภาคองเกรสว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีสัญญาณของการฟื้นตัว "ในวงกว้างและครอบคลุม" ทั้งในตลาดงานและเศรษฐกิจ
.
ทำเนียบขาวยืนยันในวันนี้ว่า สหรัฐจะไม่สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 70% อย่างน้อย 1 โดสก่อนวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนตั้งเป้าไว้ ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูญเสียเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์เนื่องจากการระบาดใหญ่
.
ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงทำให้ตลาดเทการซื้อขายไปที่กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี โดยดัชนี NASDAQ ได้สร้างสถิติใหม่ในวันอังคาร ในขณะเดียวกัน S&P ก็อยู่ห่างจากการสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองไม่ถึง 10 จุดเท่านั้น
.
NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.79% (หรือประมาณ 111 จุด) สู่ระดับสูงสุดที่ 14,253.27 นั่นคือเปอร์เซ็นต์เดียวกับที่เพิ่มขึ้นในวันจันทร์ นักลงทุนกลับมาเทใจให้หุ้นเทคโนโลยีอีกครั้งจากเมื่อต้นปีนี้ โดยเฉพาะ Netflix (NFLX, +2.4%) และ Facebook (FB, +2%) ในขณะเดียวกัน Amazon (AMZN) เพิ่มขึ้น 1.5% และ Apple (AAPL) เพิ่มขึ้น 1.3% ในขณะที่ Alphabet (GOOG) เพิ่มขึ้น 0.43% Microsoft (MSFT) เพิ่มขึ้น 1.1% เช่นกัน
.
S&P ขยับขึ้น 0.51% สู่ 4246.44 ซึ่งทำสถิติใหม่เพียง 0.2% เท่านั้น ซึ่ง S&Pและ NASDAQ ทั้งคู่ทำสถิติสูงสุดเมื่อเร็วๆ นี้ในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน แม้ว่าจะจบลงด้วยการเป็นสัปดาห์ติดลบ และดัชนีดาวโจนส์สงบลงหลังจากร่วงลงมากกว่า 500 จุดในวันศุกร์และเพิ่มขึ้นมากกว่า 500 จุดเมื่อวานนี้ ดัชนีเพิ่มขึ้นเกือบ 1.8% ของวันจันทร์เพิ่มขึ้นอีก 0.20% (หรือประมาณ 68 จุด) เป็น 33,945.58 ในกรณีที่คุณสงสัย อันนี้อยู่ห่างจากราคาปิดสูงใหม่ประมาณ 2.1%
.
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงาน การเงิน และหุ้นที่มีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปิดประเทศอีกครั้งในสหรัฐ ก็ยังแซงหน้าดัชนีมาตรฐาน S&P 500และดัชนี blue-chip Dow อยู่ ซึ่งก็ยังคงต้องจับตามองในเรื่องการกระจายวัคซีน ที่มีผลต่อการเปิดประเทศอีกครั้งว่าจะผลต่อหุ้นกลุ่มเทคนี้หรือไม่
