นอร์เวย์ได้รับใบอนุญาตการสำรวจใหม่สี่ฉบับในพื้นที่ชายแดนอาร์กติก เพื่อจะสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซตลอดจนมูลค่าและการสร้างงานตามที่กระทรวงปิโตรเลียมและพลังงานของแห้งประเทศนอร์เวย์ได้กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

.

ตามรายงานของกระทรวงน้ำมันของนอร์เวย์ พบว่าพื้นที่ชายแดนอาร์กติกเป็นเขตชายแดนที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นแหล่งค้นพบใหม่จำนวนมาก เนื่องจากนอร์เวย์ต้องการการค้นพบแหล่งน้ำมันใหม่ๆ เพื่อรักษาการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากช่วงสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในหลายเดือนที่ที่ผ่านมา ทำให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน Tina Bru กล่าวเมื่อปีที่แล้วเมื่อกระทรวงเสนอให้ขยายพื้นที่สำหรับการสำรวจน้ำมันและก๊าซ

.

โดยในรอบการออกใบอนุญาตครั้งที่ 25 ซึ่งประกาศในเดือนพฤศจิกายน 2020 บริษัทต่างๆ สามารถยื่นขอใบอนุญาตได้ในพื้นที่ต่างๆ เก้าแห่งในทะเลเรนต์และอีกหนึ่งแห่งในทะเลนอร์วีเจียน หลังจากประเมินการประมูล นอร์เวย์ได้อณุญาติให้ผู้ประกอบการ Shell, Equinor, Idemitsu Petroleum Norway, INEOS E&P Norway, Lundin, OMV (นอร์เวย์) และ Vår Energi เข้าไปสำรวจ โดยกระทรวงกล่าวในวันนี้ ในสี่ใบอนุญาต Equinor จะดำเนินการสองรายการ ในขณะที่ Vår Energi ซึ่งส่วนใหญ่ถือครองโดย Eni ของอิตาลี และ INEOS แต่ละคนจะดำเนินการหนึ่งใบอนุญาต

.

นอร์เวย์เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรปตะวันตก ทำให้ภาคน้ำมันและก๊าซจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานในระยะยาว การเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้กำลังเตรียมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน แต่นอร์เวย์ยังคงเชื่อว่าสามารถพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมเพื่อส่งมอบการผลิตที่ปล่อยมลพิษต่ำภายใต้นโยบายด้านสภาพอากาศ ตามเอกสารไวท์เปเปอร์ 'Putting Energy to Work' แสดง

“เป้าหมายหลักของนโยบายปิโตรเลียมของรัฐบาล - เพื่ออำนวยความสะดวกในการผลิตที่ทำกำไรในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซในมุมมองระยะยาว - อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง” รัฐมนตรี Bru กล่าว

.

อย่างไรก็ตาม หากนอร์เวย์ประสบผลสำเร็จในการค้นขาแหล่งขุดเจาะน้ำมันใหม่ได้ก็จะทำให้มีอุปทานของน้ำมันที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันอาจจะลดต่ำลงได้และอาจะเกิดการแข่งราคาระหว่างพลังงานในยุคเก่ากับพลังงานยุคใหม่ก็เป็นได้ เป็นเหตุว่าการเดินทางเข้าสำรวจน้ำมันในครั้งนี้จึงเป็นที่น่าจับตามอง