ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากรายได้ที่แข็งแกร่งจาก Nike ( NKE ) ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ซึ่งทำทะลุกรอบเมื่อวันศุกร์และซื้อขายในเขตซื้อของการควบรวมกิจการโดยมีจุดซื้อ 148.05 ช่วยให้ดาวโจนส์ปิดบวกวันศุกร์ เช่นเดียวกับดัชนี Nasdaq และ S&P500 ที่ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดได้ช่วยคลายความวิตกของบรรดานักลงทุนที่กังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด
.
หุ้นNikeปิดตัวขึ้นมากกว่า 15% เมื่อวันศุกร์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวัน หลังจากผู้ผลิตรองเท้าคาดการณ์ยอดขายทั้งปีจะสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ขณะที่ธุรกิจในอเมริกาเหนือฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส ทำให้หุ้นของ Nike สิ้นสุดวันขึ้น 15.5% ที่ 154.35 ดอลลาร์ ณ จุดหนึ่ง หุ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 154.59 ดอลลาร์
.
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,433.84 จุด เพิ่มขึ้น 237.02 จุด หรือ +0.69%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,280.70 จุด เพิ่มขึ้น 14.21 จุด หรือ +0.33%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,360.39 จุด ลดลง 9.32 จุด หรือ -0.06%
.
วันศุกร์ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปิดทรงตัว แต่ฟื้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 91.525 ที่ลงไปทดสอบหลังการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าที่คาด ขณะที่นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนว่าเฟดจะเร่งดำเนินการเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่
.
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตได้เริ่มเร่งตัวทางเศรษฐกิจแต่ก็ยังมีปัญหาถึงเรื่องราคาอยู่จึงไม่ค่อยมีผลกับตลาดมากนัก
.
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Non-Farm) ที่จะออกมาในศุกร์แรงของเดือนึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นเช่นกัน