ทองคำปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (2 ก.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ลดลง และดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เมื่อคืนวันศุกร์ตัวเลขจ้างงาน NFP ออกมาดีขึ้นก็จริงแต่อัตราการว่างงานสหรัฐฯกลับออกมาสูงขึ้นขัดแย้งกัน ทำให้ทองได้ประโยชน์ปรับตลาดแดนบวก

.

วันศุกร์ที่ผ่านมา  ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง -0.31% และร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน  แม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.จะดีเกินคาด  แต่อัตราการว่างงานพุ่งสวนคาดการณ์  ขณะที่การจ้างงานในสหรัฐยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนก.พ.ปี 2020 ประมาณ 6.8 ล้านตำแหน่ง

.

อัตราการว่างงานสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.6% หลังจากแตะระดับ 5.8% ในเดือนพ.ค ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,783.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. และปรับตัวขึ้น 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้

.

อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ กับมาการปรับตัวลดลงเหตุผลง่ายๆคือเรื่องของอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากปริมาณความต้องการคนงานที่ไม่อยากจะทำงานและผู้ที่ทำงานนอกเวลาหากมองรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงลดลงเล็กน้อยตามคาดที่ 0.33% สำหรับเดือนนั้นและ 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี 

.

ทองคำได้รับแรงหนุนจาก ดอลลาร์ที่อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐที่ลดลงด้วยเช่นกัน ในท่ามกลางการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นกับการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างก็เร่งขึ้นตามด้วยเช่นเดียวกัน

.

.

ราคาทองคำยังคงวิ่งอยุ่ในระดับสูง ถ้ายังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก็ย่อมมีโอกาสที่เราจะได้เห็นการปรับตัวย่อลงของราคาทองลงมาทดสอบแนวรับ 1,780  แต่ขณะนี้แนวโน้มภาพรวมยังคงระมัดระวังอยู่ถือว่าไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แม้จะอยู่ในวิ่งอยู่เหนือโลว์เดิมแน่นอนว่าถ้าราคาทองคำผ่านจุดสูงสุดเดิมของวันศุกร์ขึ้นไปได้เราอาจได้เห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะบริเวณ 180X ได้ ซึ่งก็ต้องติดตามดูในสัปดาห์ที่ไม่ค่อยมีข่าวอะไรที่จะเป็นปัจจัยเข้ามากระทบมาก รวมถึงวันนี้เป็นวันหยุดของธนาคารสหรัฐซึ่งราคาทองวันนี้อาจจะไม่ขยับมากนัก

.

แนวต้าน 1,795/1,806/1,820 

แนวรับ  1,780/1,770/1,760