ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันพุธหลังจากรายงานของ Reuters ระบุว่าซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บรรลุข้อตกลงในการส่งเสริมอุปทานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ว่าจะการล้มเหลวของการเจรจาของพันธมิตร OPEC + เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่าคู่แข่งขันจะบรรลุข้อตกลง ข้อตกลงนี้อนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันใช้การควบคุมการส่งออกจนถึงสิ้นปี 2565
สต็อกน้ำมันดิบ EIA จะตกต่ำจาก -6.9 ล้านเป็น -7.9 ล้าน แต่ราคาน้ำมันดิบยังคงเสนอในช่วงเซสชั่นนิวยอร์ก น้ำมันดิบเบรนท์ลดลง -0.72% ณ วันที่เขียน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
"สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 73.13 ดอลลาร์/บาร์เรล"
"สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์/บาร์เรล"
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการระบาดล่าสุดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าในหลายประเทศและผลกระทบต่อความต้องการเชื้อเพลิง โดยออสเตรเลียขยายเวลาล็อคดาวน์ซิดนีย์อีกสองสัปดาห์ ในขณะที่ผู้ป่วยรายวันในเกาหลีใต้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,600 ราย
“ปัญหากำลังก่อตัวขึ้นในตลาดน้ำมัน เริ่มมีความกลัวว่าจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นอาจชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และนั่นเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในระยะใกล้ถึงปานกลาง” สตีเฟ่น เบร็นนอค นักวิเคราะห์ของ PVM Oil Associates กล่าวกับ Bloomberg
แนวโน้มทางเทคนิคสำหรับน้ำมันดิบเบรนท์
ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงในวันนี้ทำมีความเสี่ยงที่ราคาจะผ่านแนวรับให้แนวรับ 75.52 และหากผ่านไปได้ระดับ 71.44 และ 70.00 เป็นราคาเป้าหมายถัดไปสำหรับผู้ขาย แต่หากไม่สามารถผ่านราคา 73.34 ได้ ในทางกลับกัน กราฟอาจเกิดการเด้งที่ไปที่ 75.52 ก่อนเจอแนวต้าน 77.93 และราคาเหนือระดับ 80.00 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านทางจิตวิทยา
