Square แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือยอดนิยมของ Jack Dorsey กำลังแตกแขนงแพลตฟอร์มออกไปด้วยการร่วมทุนธุรกิจใหม่ที่จะมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin
.
รายละเอียดในทวีตของ Dorsey เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม แต่ CEO ของบริษัทกล่าวว่าจะเปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาเพื่อสร้างโครงการการเงินแบบกระจายอำนาจซึ่งสร้างขึ้นจาก Bitcoin
.
Dorsey CEO ของ Twitter กล่าวเสริมว่าโครงการนี้จะเป็นโอเพ่นซอร์สอย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Bitcoin ใหม่ เขายังคงกล่าวต่อไปว่า Mike Brock หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ของ Square เป็นผู้นำและสร้างทีม
โครงการที่ชื่อว่า TBD จะแตกต่างจาก Square Crypto ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาโครงการโอเพ่นซอร์ส Dorsey กล่าวเสริม
การตอบกลับทวีตหลายครั้งให้ความเห็นว่า Ethereum มีอยู่แล้ว และนี่ดูเหมือนจะเป็นอีกความพยายามที่จะสร้างบางสิ่งที่ใช้งานได้จริง
เจาะลึก Bitcoin DeFi
การมุ่งเน้นที่ Bitcoin เป็นส่วนที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบัน BTC ไม่มีความสามารถในการทำสัญญาที่ชาญฉลาด ซึ่งทำให้ยากต่อการแข่งขันกับ DeFi บน Ethereum
.
การตอบกลับทวีตหลายครั้งให้ความเห็นว่า Ethereum มีอยู่แล้ว และนี่ดูเหมือนจะเป็นอีกความพยายามที่จะสร้างบางสิ่งที่ใช้งานได้จริง
.
Bitcoin จะได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายปีในเดือนพฤศจิกายนที่เรียกว่า Taproot ซึ่งจะทำให้สร้างสัญญาอัจฉริยะบนเครือข่ายได้ง่ายขึ้น Taproot เป็นซอฟต์ฟอร์กของ Bitcoin ที่รับประกันการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย เป็นส่วนตัวและมีน้ำหนักเบา ทำให้เครือข่ายสามารถปรับขนาดได้มากขึ้นและช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
.
สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความจำเป็นอย่างมากให้กับ DeFi ที่ใช้ Bitcoin ซึ่ง Dorsey ดูเหมือนจะคาดหวัง
.
รายรับที่ Square เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2020 ส่วนใหญ่มาจากการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นบน Cash App แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือแบบเพียร์ทูเพียร์
Ethereum ยังคงครอง DeFi
การเงินแบบกระจายอำนาจยังคงเป็นโดเมนหลักของ Ethereum โดยมีแพลตฟอร์มที่ใช้ Ethereum ที่ครองชาร์ต TVL (มูลค่ารวมที่ถูกล็อก)
.
ในขณะที่เขียน TVL fdefior โปรโตคอล DeFi ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 82 พันล้านดอลลาร์ตาม DappRadar เพิ่มขึ้น 273% จนถึงปีนี้
.
แพลตฟอร์มดังกล่าวยังรายงานด้วยว่ามีมูลค่าประมาณ 6.3 พันล้านดอลลาร์ที่ถูกล็อกไว้ใน BTC ซึ่งเป็นเวอร์ชันโทเค็นของ Bitcoin บนเครือข่าย Ethereum เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตั้งแต่ต้นปี โดยเน้นถึงความต้องการ DeFi ที่ใช้ Bitcoin
