ดอลล์แข็งค่าวิตกโควิดหนุนแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตา ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงเนื่องจากความกังวลว่า การที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยิ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% แตะที่ 92.8856 เมื่อคืนนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1791 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1809 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3659 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3768 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7328 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7400 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2758 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2605 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.46 เยน จากระดับ 110.07 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9182 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9195 ดอลลาร์
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) แถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 30,000 รายต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สูงกว่าค่าเฉลี่ย 11,000 รายต่อวันในเดือนมิ.ย.
ส่วนเงินปอนด์ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยิ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น ด้านนักวิเคราะห์เตือนว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์มาแล้วครั้งหนึ่งในปีที่แล้ว แต่ก็ต้องกลับมาบังคับใช้ใหม่ หลังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ และหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ อังกฤษเตรียมยกเลิกมาตรการคุมเข้มที่มีการบังคับใช้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยนายจอห์นสันยืนยันการยกเลิกมาตรการดังกล่าว โดยอ้างว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้น แต่จำนวนผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และจำนวนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม