ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.23% แตะที่ 92.09 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ รวมถึงการร่วงลงของราคาทองคำ โดยการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค.และในด้านรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจลดลง 0.2% 

.

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 81.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 85.5 ในเดือนมิ.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 80.8 ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาคการผลิตในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 73.4 ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 64.2 

.

สื่อข่าวสหรัฐฯระบุว่า ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในวันศุกร์ว่า เฟดควรเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ และคาดว่าจะปรับลดวงเงิน "ค่อนข้างรวดเร็ว" เพื่อให้มาตรการ QE ยุติลงในช่วงต้นปี 2022 และปูทางให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีดังกล่าวหากจำเป็น
.
อย่างไรก็ตาม เย็นนี้นักลงทุนรอติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI), PMI จากสถาบัน ISM, รายจ่ายในภาคการก่อสร้าง รวมทั้ง ดัชนีราคาภาคการผลิตจาก ISM ว่าจะส่งผลอย่างไรกับดัชนีดอลลาร์
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.23% แตะที่ 92.09 ก่อนจะปรับตัวลงมาเล็กน้อยที่ 92.071 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม หากสามารถทะลุแนวรับที่ระดับ 92.983 ได้ ก็มีแนวโน้มลงมาทดสอบแนวรับถัดไปที่ระดับ 91.780
แนวต้านสำคัญ : 92.191 / 92.340
แนวรับสำคัญ : 91.983 / 91.780