เมื่อต้นวันอังคาร ราคาน้ำมันดิบ WTI ดูเหมือนจะฟื้นตัวจากอารมณ์ขาลงที่รุนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นดูเหมือนจะถูกจำกัดไว้ เนื่องจากผู้ค้ากังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของ COVID-19 ทั่วโลกซึ่งจะทำให้ความต้องการน้ำมันจะลดลงอีกครั้ง ในขณะที่เขียนน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายที่ประมาณ 71.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
.
น้ำมันดิบร่วงลงอย่างมากในวันจันทร์หลังจากการเปิดเผยข้อมูล PMI ภาคการผลิตจากประเทศเศรษฐกิจหลักชี้ให้เห็นถึงกิจกรรมที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐอเมริกา ทำให้น้ำมัน WTI สูญเสียมูลค่ามากกว่า 3% ในวันเดียว และทำให้เกิดความกังวลว่าการชะลอตัวของกิจกรรมโรงงานอาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวล่าสุดของการติดเชื้อในหลายประเทศ เนื่องจากอาจทำให้รัฐบาลต้องประกาศข้อจำกัดและการควบคุมเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดความต้องการใช้น้ำมัน กรณีผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ แม้ว่าจะมีการกระจายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ทั่วถึง แต่ก็ยังไม่พอที่จะควบคุมการระบาดได้ ทำให้เกิดความกังวลว่าความคืบหน้าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจได้รับผลกระทบ
.
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปัจจุบันจากความตึงเครียดทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคอ่าวหลังจากการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของอิสราเอลนอกชายฝั่งโอมาน ความตึงเครียดในภูมิภาคที่อุดมด้วยน้ำมันของตะวันออกกลางอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุปทานน้ำมัน และแนวโน้มที่แรงกดดันด้านอุปทานกำลังสนับสนุนราคาน้ำมันในขณะนี้
.
นอกจากนี้ น้ำมันยังซื้อขายสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วสหรัฐฯ จะลดลงในช่วงสัปดาห์ก่อน ผลสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลง 2.9 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงเป็นที่สามสัปดาห์ติดต่อกันและให้ความหวังแก่ผู้ค้าว่าอุปสงค์น้ำมันยังคงแข็งแกร่งในกลุ่มผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก
