แรงเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐวานนี้ทำให้คู่เงิน EUR/USD กลับตัวอย่างรวดเร็วร่วงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.1910 ในวันที่ 30 กรกฎาคม และราคาได้ลงมาเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบ ไซด์เวย์ขนาดเล็กระหว่างราคา 1.18310-1.18400 ในขณะที่เขียน EUR/USD ซื้อขายที่ 1.1835 ลดลง 0.01% ในวันนี้

.

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ดีดตัวขึ้นเหนือ 92.20 ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่ทรงตัว หลังจาก นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้

.

นอกจากนั้น แมรี เดลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แห่งซานฟรานซิสโก ยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่จะลดโครงการจัดซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

.

ในขณะเดียวกัน ดัชนี ISM Non-Manufacturing Purchase Manager (PMI) ก็สูงขึ้นที่ 64.1 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 60.5 ในทางกลับกัน ค่าเงินสกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ยอดค้าปลีกในยูโรโซนพุ่งขึ้น 1.5% ในเดือนมิถุนายน เทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7%

. 

เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อันเป็นเหตุจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดเดลต้าที่แพร่ระบาดสูงและส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบางในวงกว้าง

.

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ทำให้นักลงทุนหันหนีจากสกุลเงินชั้นนำอื่น ๆ และหันไปหาดอลลาร์สหรัฐฯ อีกครั้ง ผลักดันให้แข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังก่อนเผยแพร่รายงาน NFP ในขณะเดียวกัน เงินยูโรร่วงลงใกล้ระดับ 1.18 ดอลลาร์หลังจากพยายามขึ้นเหนือระดับ ก่อนหน้านี้ในวันพุธ

.

ในวันนี้ข้อมูลที่สำคัญในปฏิทินทางเศรษฐกิจจะมีการเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโร การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐและข้อมูลการค้ายอดคงเหลือเพื่อวัดความเชื่อมั่นตลาด