ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันอังคารในทวีปเอเชีย หลังจากราคาน้ำมันตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความต้องการในสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันยังคงมีอยู่ แม้ว่าปัจจัยด้านจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

.

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.42% เป็น 69.33 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:31 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4:31 น. GMT) ซึ่งร่วงลง 2.3% ในวันจันทร์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI เพิ่มขึ้น 0.66% เป็น 66.92 ดอลลาร์ โดยลดลง 2.6% ในช่วงก่อนหน้า

.

ประเทศจีนรายงานถึงจำนวนผู้ป่วย COVID-19 รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ทำให้ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกพยายามที่จะเลี่ยงการส่งออกน้ำมัน โดยมีการใช้มาตรการจำกัดในพื้นที่เสี่ยงส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันมีปริมาณที่ลดลง
.

อย่างไรก็ดี Vikas Dwivedi นักเศรษฐศาสตร์จาก Macquarie Capital Oil & Gas รายงานข่าวผ่าน Bloomberg ว่า “การสัญจรบนถนนและการจราจรทางอากาศของจีนลดลง ดังนั้นสิ่งที่ผู้ค้ากำลังสงสัยในตอนนี้ก็คือว่าภูมิภาคที่มีการบริโภคน้ำมันและการผลิตขนาดใหญ่อื่นๆ จะเริ่มลดปริมาณการส่งออกน้ำมันเหมือนจีนหรือไม่” และกล่าวเสริมว่า “เราอาจได้เห็นผลกระทบโดมิโนเอฟเฟค จากการที่ ผู้ส่งออกรายใหญ่เริ่มจำกัดปริมาณน้ำมันให้เหมือนกับจีนเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด ซึ่งสิ่งนี้จะนำไปสู่ดีมานด์น้ำมันที่ลดลงอย่างมากในปีนี้และปีต่อๆไป” 
.

ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอการตัดสินใจของสหภาพยุโรปว่าจะยกเลิกนโยบายปัจจุบันที่อนุญาตให้ชาวอเมริกันเข้าสู่ประเทศหรือไม่ การตัดสินใจยกเลิกนโยบายนี้จะ “ช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อรวมถึงการนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของดีมานด์น้ำมัน” Dwivedi กล่าว

.

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังรอข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจากสถาบัน American Petroleum Institute ที่จะถึงในวันพรุ่งนี้