ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) ซึ่งถือได้ว่าเป็นธนาคารของธนาคารกลาง ออกมาประกาศเตือนว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นปัจจัยกดดันแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีหนี้สินสกุลเงินดอลลาร์จำนวนมาก
อัตราหนี้สินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐของตลาดเกิดใหม่เทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดับ 10% แล้ว จากเพียง 3.5% สมัยวิกฤติการเงินโลกปี 2551
นักวิจัยของบีไอเอส พบว่า การที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 1% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินนั้น จะทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาปรับตัวลดลง 0.3% บีไอเอสยังเปิดเผยอีกว่า สิ่งนี้เคยปรากฏให้เห็นแล้วในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบแรก ซึ่งขณะนั้นดัชนีดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จนส่งผลให้เกิดพันธบัตรไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ทำสถิติเป็นประวัติการณ์