ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งบริเวณ 93.498 หลังรายงานการประชุมเฟดชี้ให้เห็นว่ากรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องปรับลดวงเงิน QE ปีนี้ โดยปิดตลาดด้วยการแข็งค่าขึ้น 0.2%
.
แหล่งข่าวสหรัฐฯ เผยถึง รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 27-28 ก.ค. ที่ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นวงกว้างตามที่เฟดคาดการณ์ไว้
.
ในด้านนักวิเคราะห์จากบริษัท Chase Investment Counsel กล่าวว่า แม้รายงานการประชุมเฟดจะแสดงให้เห็นว่า มีกรรมการเฟดส่วนหนึ่งที่เห็นต่างในเรื่องกรอบเวลาการปรับลดวงเงิน QE แต่รายงานการประชุมก็บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า เฟดมีความคิดที่จะลดวงเงิน QE แน่นอน
.
ตัวเลขของการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2.6% สู่ระดับ 1.635 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.61 ล้านยูนิต
.
ในส่วนของผู้นำด้านสาธารณสุขของสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ชาวอเมริกันในเดือนก.ย. หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์พุ่งทำไฮในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 93.498 ก่อนจะปรับฐานลงมาเล็กน้อยที่ระดับ 93.447 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตามหากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านที่ระดับ 93.498 ได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 93.709
แนวต้านสำคัญ : 93.498 / 93.709
แนวรับสำคัญ : 93.205 / 93.028
.