ราคาทองคำผันผวนในกรอบ $1,795 ถึง $1,773 เหตุจากดอลลาร์พุ่งทำไฮรอบ 9 เดือน โดยแข็งค่าขึ้น 0.44% แตะระดับ 93.587 กดบอนด์ยีลด์ร่วงสู่ระดับต่ำสุด 1.223% และรายงานการประชุมเฟดที่บ่งชี้ว่าเฟดกำลังพิจารณาถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินในปีนี้
.
โดยในด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุด 1.223% ในวันพฤหัสบดี จากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า และความวิตกว่าเฟดมรแนวโน้มปรับลด QE ในปีนี้บั่นทอนความต้องการเสี่ยง
.
ข้อมูลจาก เฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 19.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2020 จากระดับ 21.9 ในเดือนก.ค. ขณะเดียวกัน ในด้านโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ เหลือเพียง 5.5% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 9%
.
ถ้อยแถลงของ นายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกล่าวว่า การที่กลุ่มตาลีบันหวนคืนอำนาจในอัฟกานิสถานอาจทำให้ประเทศแห่งนี้กลายเป็นแหล่งพำนักของกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคอีกครั้ง
.
และในด้าน ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ราคาทองคำผันผวนในกรอบ $1,795 ถึง $1,773 และได้ปรับตัวขึ้นมาที่ $1,787 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม หากกราฟไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านที่ $1,795 ได้ ก็มีโอกาสที่จะลงมาเทสแนวรับที่ $1,773 และอาจทะลุลงไปที่ $1,758
แนวต้านสำคัญ : 1,795 / 1,810
แนวรับสำคัญ : 1,773 / 1,758
.