ดัชนีหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,553.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.90 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82,371.05 ล้านบาท จากแรงขายเก็งกำไรหลังยอดติดเชื้อโควิดลดลง และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนต้านโควิดเพิ่มขึ้น
วันนี้ (20 ส.ค. 64) SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,553.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.90 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 82,371.05 ล้านบาท ดัชนีทำระดับสูงสุด 1,554.45 จุด และระดับต่ำสุด 1,545.92 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวก จากการซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเปิดประเทศ อย่างท่องเที่ยวหลายตัวที่สังเกตได้ว่าฟื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เริ่มแผ่วกำลังลง แม้จะมีแรงกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงานบางส่วนหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 6
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 826 หลักทรัพย์ ลดลง 869 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 506 หลักทรัพย์
นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ได้ค่อนข้างดีกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ ตอบรับปัจจัยบวก จากยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศลดลงต่ำกว่าระดับ 2 หมื่นคน/วันถือว่าเริ่มนิ่งและไม่เร่งตัว ทำให้นักลงทุนกล้าเข้ามาเก็งกำไร และในช่วงบ่ายตลาดปรับตัวขึ้นหลังการฉีดวัคซีนทำได้มากขึ้นจึงมีโมเมมตัมและ sentiment เป็นบวก
ในสัปดาห์หน้า ต้องติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ "แนวโน้มเศรษฐกิจ" รวมทั้งติดตามสถานการณ์โควิดประจำวัน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดงานไทยแลนด์โฟกัสแบบออนไลน์ในช่วงวันที่ 25-27 ส.ค. พร้อมให้กรอบดัชนีในสัปดาห์หน้า แนวต้านที่ 1,570 จุด แนวรับที่ 1,520 จุด
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วง 1-2 เดือนนี้ แนะนำให้ติดตามสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ ที่จะเริ่มต้นส่งสัญญาณการลดทอนการเข้าซื้อสินทรัพย์ลงหรือไม่ รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย แนะนำระยะสั้นลงทุนหุ้นที่ตลาดมีโอกาสปรับมุมมองในเชิงบวกขึ้น หลังงบไตรมาส 2 ดีกว่าคาด และไตรมาส 3 มีแนวโน้มดีต่อหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และได้อานิสงส์เชิงบวกจากการระบาดโควิดและการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ