ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ที่ระดับ 30,069.79 จุด ลดลง 148.47 จุด หรือ 0.49% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,691.96 จุด ลดลง 7.16 จุด หรือ 0.19% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,519.95 จุด เพิ่มขึ้น 55.72 จุด หรือ 0.45%
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนแสดงความวิตกในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ หลังยอดผู้ติดเชื้อในประเทศได้เพิ่มขึ้นเป็น 14,932,613 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 283,621 ราย ซึ่งจากกสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ล่าสุดรัฐลอสแองเจลิส ได้ยกระดับมาตรการป้องกันด้วยการให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัย และห้ามออกนอกสถานที่หากไม่มีเหตุจำเป็น เป็นเวลา 3 สัปดาห์
ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยเป็นผลมาจากการที่ตลาดได้รับแรงกดดันจากความตึงเตรียดของสหรัฐฯและจีน หลังสหรัฐฯได้ประกาศคว่ำบาตร สมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติของจีน 14 รายเมื่อวานนี้ โดยอ้างถึงการใช้อำนาจตัดสิทธินักการเมืองในฮ่องกงเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq กลับปิดในแดนบวก ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.51% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.23% และหุ้นของเทสลา เพิ่มขึ้นมากถึง 7.13%